บทที่ 54 สารพัดเมนูปลา
ปลาคาร์ฟ ปลาเฉาฮื้อ ปลาซ่ง ปลาลิ่น ปลาคาร์ฟสีดำ ตั้งแต่เด็กจนโตฉินสือโอวเคยเห็นปลาเหล่านี้ก็แต่ในตู้แช่แข็งเท่านั้น
เนื่องจากเพิ่งเริ่มต้นบูรณะฟาร์มปลาได้ไม่นาน ตู้แช่แข็งยังไม่ได้เริ่มใช้งาน อุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆในฟาร์มปลายังต้องทำการซ่อมแซมอีกมาก ถึงแม้ว่าจะมีตู้แช่แข็งอันเก่าเหลืออยู่ แต่สายไฟเก่ามากแล้ว วัสดุต่างๆก็เป็นวัสดุจากยี่สิบกว่าปีก่อน ความจริงควรจะทิ้งไปตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ
ชาร์คนำปลากลับมาทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบกว่าตัว ทั้งหมดเป็นปลาที่พวกเขาหามาได้เอง ซีมอนสเตอร์ที่รู้ว่าฉินสือโอวอยากได้ปลา ก็แบ่งส่วนของตัวเองมาให้ด้วย เหลือเก็บให้ตัวเองเพียงส่วนน้อยเท่านั้น
“ผมจะเอากลับไปให้หมากิน เลาะแต่เนื้อนำไปต้มสุกให้เอาให้หมากินรสชาติก็ถือว่าดีเลยทีเดียว” ซีมอนสเตอร์อธิบาย
ฉินสือโอวที่คิดจะทำเมนูสารพัดปลา จึงพูดกับเขาว่า “เดี๋ยวนายพาครอบครัวนายมาด้วยเลยสิ คืนนี้มาทานอาหารกันที่นี่ ฉันจะทำสารพัดเมนูปลาสไตล์จีนให้ทานกัน”
“นั่นดีเลยครับ” ซีมอนสเตอร์ตอบอย่างรวดเร็ว
ฉินสือโอวถ่ายรูปกับปลาพวกนี้ก่อน แล้วโพสต์ลงหน้าไทม์ไลน์QQของเขา จากนั้นถึงจะเริ่มลงมือทำอาหาร
ฉินสือโอวคุ้นเคยกับปลาพวกนี้เป็นอย่างดี แม่น้ำไป๋หลงหน้าบ้านตระกูลฉินของเขาอย่างอื่นไม่ค่อยมีอะไร แต่กลับมีปลาพวกนี้เยอะทีเดียว ดังนั้นตั้งแต่เด็กปลาที่เขาเคยกินก็คือปลาพวกนี้
ปลาที่หามาได้นั้นส่วนมากเป็นปลาใหญ่ที่มีขนาดครึ่งเมตรถึงหนึ่งเมตร ไม่ค่อยมีปลาตัวเล็กขนาดยี่สิบสามสิบเซนติเมตรสักเท่าไร ปลาที่แตกต่างกันก็ย่อมมีวิธีการทำอาหารที่แตกต่างกัน
หรือพูดอีกแง่ก็คือ สำหรับปลาน้ำจืดนั้น คุณภาพเนื้อของปลาตัวเล็กจะดีกว่า ดังนั้นฉินสือโอวจึงนำปลาขนาดยี่สิบเซนติเมตรที่มีอยู่สิบกว่าตัวนั้นมาตุ๋นกับทอด และก็ยังมีต้มจืดปลากับต้มส้มปลาอีกสองวิธีด้วย
ส่วนปลาตัวใหญ่นั้น เขาให้ชาร์คเลาะเนื้อปลาออก หรือจะตัดเป็นแผ่น หรือเป็นชิ้นก็ได้ ปลาพวกนี้ไม่ว่าจะเอาไปทอดหรือย่างก็ดีทั้งนั้น
หลังจากเลาะเนื้ออกมาแล้ว ฉินสือโอวใช้ขิง หอมใหญ่ กระเทียมและเหล้าสำหรับทำอาหารหมักเนื้อไว้ ต้องหมักไว้สองชั่วโมงจึงจะกำจัดกลิ่นคาวของปลาออกได้
หลังจากหมักเนื้อปลาเสร็จแล้ว ก็เตรียมเครื่องปรุง ฉินสือโอวให้ชาร์คไปเอาเครื่องย่างกับกระทะทอดจากที่บ้านมา ในแคนาดาของพวกนี้เป็นของที่แทบจะมีกันทุกบ้าน ถือว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับสังสรรค์ที่ขาดไม่ได้เลย
ตอนบ่าย ครอบครัวซีมอนสเตอร์ ครอบครัวชาร์ค ครอบครัวฮิวจ์ที่เป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ต บวกกับเออร์บักและวินนี่ รวมสิบกว่าคนก็มาถึงฟาร์มปลา ทำให้ฟาร์มปลาครึกครื้นขึ้นมาทันที
ฉินสือโอวเพิ่งเคยเจออลิซลูกสาวของชาร์คเป็นครั้งแรก เธอเป็นผู้หญิงที่หน้าตาใช้ได้ ดูสะอาดสะอ้าน ไม่คิดเลยว่าคนที่รูปร่างใหญ่โตดุดันอย่างชาร์คจะมีลูกสาวที่ดูเรียบร้อยแบบนี้ได้ แต่ลูกชายของเขาเจสนี่สิที่ถอดแบบจากเขามาเลย ทั้งรูปร่างและนิสัยใจคอ แม้อายุยังน้อยแต่สามารถทั้งปีนต้นไม้ทั้งลงทะเล เกเรใช่ย่อย
ปกติฟาร์มปลามีจ้างพนักงานชั่วคราวอยู่แล้ว อย่างเช่นทุกวันนั้นต้องให้อาหารปลาวันละห้ารอบ หากให้แค่ชาร์คและวินนี่ทำกันแค่สองคนคงไม่ไหว ฉินสือโอวให้ชาร์คเรียกพนักงานเหล่านี้มาด้วย เพราะปลาเยอะ ยังไงก็เพียงพอ
หลังทำนู่นทำนี่เสร็จ ถึงเวลาค่ำแล้ว ในสวนของฟาร์มปลาตอนนี้มีคนอยู่ถึงยี่สิบห้าคน
ฉินสือโอวเตรียมถั่วพิสตาชีโอ แมคาเดเมีย แอปริคอท ลูกฮิกคอรี เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เฮเซลนัท เมล็ดทานตะวันและถั่วลิสง ให้ทุกคนทานเป็นของกินเล่นขณะคุยกัน
แม้จะเห็นฉินสือโอววุ่นหัวหมุนอยู่ในห้องครัว ซีมอนสเตอร์และคนอื่นๆต่างก็รู้สึกเกรงใจ แต่พวกเขาไม่เคยนำปลาพวกนี้มาทำอาหารมาก่อน จึงช่วยเหลืออะไรเขาไม่ได้
วินนี่อยู่เป็นลูกมือให้ฉินสือโอวในห้องครัว คอยช่วยเหลืองานง่ายๆเล็กๆน้อยทั่วไป
กระรอกเสี่ยวหมิงและเสี่ยวหงก็วิ่งเข้าไปในห้องครัว พวกมันนั่งอยู่บนหน้าต่างห้องครัว มีอาหารจำพวกบลูเบอร์รี แอปเปิลแดง เฮเซลนัท และไพน์นัทวางอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากขมุบขมิบกินกันอย่างมีความสุข บางครั้ง ตอนฉินสือโอวนั่งพัก เสี่ยวหมิงจะวิ่งพล่านขึ้นมาบนไหล่เขา น่ารักน่าชังมาก
ไนต์ลีย์ภรรยาของซีมอนสเตอร์ เมลิสซาภรรยาของชาร์คและผู้หญิงคนอื่นๆช่วยกันทำสลัดผลไม้ น้ำผลไม้คั้นสด นอกเหนือจากนั้นยังช่วยกันทำอาหารจานหลักสำหรับค่ำนี้ด้วย เช่นเค้กรสชาติต่างๆ วาฟเฟิล เฟรนซ์โทสต์และแพนเค้ก
เมนูปลาเผาแบ่งออกเป็นสองวิธี วิธีแรกคือปลาเผาทั่วไป เมื่อตอนบ่ายฉินสือโอวได้ปรุงและหมักเนื้อปลาเอาไว้แล้ว รอตอนค่ำเพียงแค่เสียบปลา วางไว้บนเตาย่างเท่านี้ก็ได้แล้ว
ชาร์คพลิกปลาที่เผาไปมา และคอยทาน้ำมัน พริกป่น ผงมะแข่นอยู่ตลอดเวลา ใช้เวลาเพียงไม่นานกลิ่นหอมก็โชยออกมา
อีกวิธีคือการเผาปลาแบบชวนเซียง เริ่มจากนำปลาเข้าในเครื่องอบให้ปลาสุกประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ จากนั้นจึงนำไปตุ๋นโดยวางเห็ด มันฝรั่ง หัวไชเท้า ต้นหอม ซอสพริกไว้ด้านบนปลา เมื่อตุ๋นเสร็จก็ทานได้แล้ว
วินนี่แนะนำมาอีกวิธีหนึ่ง คือเริ่มจากนำเนื้อปลาที่เตรียมไว้วางบนถาดเตาอบที่ทาครีมซอสไว้แล้ว นำเข้าไปอบสักพักจากนั้นนำออกมาพักไว้
จากนั้นตั้งไฟให้ถาดเตาอบร้อนแล้วใส่น้ำมันมะกอก รอจนน้ำมันร้อนแล้วก็ใส่ต้นหอมซอยและผักชีลงไปผัดจนเป็นสีเหลือง ค่อยเทเนื้อปลาลงไป เติมเห็ด ไข่ไก่ มะเขือเทศ วางแผ่นมันฝรั่งไว้รอบกระทะ ค่อยเติมครีมซอส ชีสบด เทเนยที่ละลายจนร้อนลงไป แล้วนำเข้าเตาอบอบจนสุก
“นี่คือวิธีการเผาปลาแบบเมดิเตอร์เรเนียน คนประเทศตุรกีและกรีกก็ชอบใช้วิธีนี้เหมือนกัน ฉันเรียนมาจากแอร์โฮสเตสชาวกรีกคนหนึ่ง” วินนี่อธิบายขณะลงมือทำ
ฉินสือโอวดมกลิ่นดู พูดอย่างพอใจว่า “กลิ่นหอมมากเลย รสชาติต้องดีแน่นอน”
ถัดไปก็ได้เวลาที่เขาจะแสดงฝีมือแล้ว เขาทำต้มส้มและต้มจืดปลาพร้อมกัน ดีที่ห้องครัวมีขนาดใหญ่พอ ใช้ทั้งเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าพร้อมกัน ทำให้เร่งเวลาการทำอาหารให้เร็วขึ้นได้
เท่านี้เมนูปลาคาร์ฟเผา ต้มส้มปลา ต้มจืดปลา ปลาซ่งนึ่ง ปลาลิ่นทอดราดต้นหอม ซอสปลาคาร์ฟ ปลาในซอสมะเขือเทศ ปลาเส้นผัดคื่นช่าย ปลาอบน้ำมัน ต่างก็ทยอยออกเตามา พร้อมที่จะเก็บเข้าตู้อุ่นอาหาร
วินนี่เห็นฉินสือโอวทำอาหารได้อย่างคล่องแคล่ว จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฝีมือคุณดีจริงๆ ดีกว่าที่ฉันคิดไว้มาก ไม่คิดเลยว่ายังมีผู้ชายที่มีฝีมือทำอาหารเยี่ยมขนาดนี้อยู่”
ฉินสือโอวหัวเราะพลางพูดว่า “คุณไม่รู้อะไร เมื่อก่อนบ้านผมจน ตัวผมเองก็ไม่ได้หน้าตาดี ดังนั้นพ่อแม่ก็เลยคิดว่า ถ้าผมยังทำงานบ้านไม่เป็นอีก อนาคตคงหาเมียไม่ได้แน่ ตั้งแต่เริ่มขึ้นชั้นมัธยมต้น ผมก็ทำอาหารแทนพ่อแม่แล้ว”
“บ้านจน? หน้าตาไม่หล่อ?” นีลเซ็นที่เดินผ่านมาได้ยินเข้าถามขึ้นมาอย่างเก้ๆกังๆ “บอส คุณแน่ใจนะครับว่าไม่ได้พูดถึงผมอยู่? ”
วินนี่เองก็ผายมือแล้วพูดว่า “ถ้าบ้านของคุณจน งั้นบ้านของฉันก็คงเรียกว่ายากจนแร้นแค้นขั้นสุดแล้ว”
ฉินสือโอวพูดว่า “ไม่ๆ ที่คุณเห็นคือผมในตอนนี้ ไม่ใช่ผมในอดีต ฟาร์มปลานี้เป็นของที่ญาติผู้ใหญ่ให้ผมมา ความจริงเมื่อก่อนผมน่ะจนมาก ตอนคุณเออร์บักมาหาผมครั้งแรก แม้แต่ค่าเช่าห้องผมยังไม่มีจ่ายเลย”
เออร์บักพูดขณะสูบซิการ์ว่า “นั่นมันก็แค่ชั่วคราวแหละ ฉิน นายก็เหมือนกับคุณปู่ มีความพยายามไม่ท้อถอย กับแสวงหาความก้าวหน้าตลอดเวลาเป็นจุดเด่น ถึงแม้จะไม่มีฟาร์มปลานี้ แต่ไม่นานนายก็จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างแน่นอน”
“คุณชมผมซะจนหาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย” ฉินสือโอวพูดพร้อมหัวเราะ
“นี่เป็นความจริงครับ บอส คุณกับเถ้าแก่ฉินคนก่อนหน้าต่างก็เป็นคนดีทั้งคู่” ซีมอนสเตอร์ก็ขอแจมด้วย เขาเรียกฉินสือโอวว่า “บอส” ตามชาร์คและนีลเซ็น
นีลเซ็นเตรียมจะทิ้งหัวปลาซ่ง ฉินสือโอวรีบห้าม พูดว่า “ไม่ เพื่อนฝูง เก็บไว้ นี่ก็เป็นอาหารอีกจานเลยนะ”
“พระเจ้า ไม่ใช่มั้ง หัวปลาประเภทนี้ก็กินได้เหรอ?” นีลเซ็นถามอย่างซื่อๆ คนอื่นๆต่างก็สงสัยเช่นกัน
เออร์บักอธิบายว่า “อย่าเป็นคนที่อยู่ในความสุขแต่กลับไม่รู้ตัวเลย ฉินจะทำหัวปลาผัดพริกสับน่ะ นี่เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงมากเลยนะ ที่ประเทศจีน หัวปลาที่ใหญ่ขนาดนี้น่ะหายากมากเลย”
หัวปลาซ่งที่ฉินสือโอวเตรียมไว้ แต่ละหัวมีน้ำหนักเจ็ดถึงแปดชั่ง(สามกิโลครึ่งถึงสี่กิโลกรัม)เลยทีเดียว เห็นน้อยมากในจีน ในหลายๆที่ในประเทศจีน แม้แต่ตอนHNทำเมนูหัวปลาพริกสับ หรือBJทำขนมปังแช่ซุปหัวปลา หัวปลาที่ใช้ก็มีน้ำหนักเพียงสองถึงสามชั่ง(หนึ่งกิโลกรัมครึ่งถึงสองกิโลกรัม)เท่านั้น
หัวปลาปลาซ่งที่ใหญ่ขนาดนี้ ปัจจุบันหายากมากแล้วในประเทศจีน
คนพวกนี้เรียกได้ว่าผ่านโลกมาน้อย พวกเขาเพิ่งเคยเห็นคนนำหัวปลามาทำอาหารครั้งแรก ต่างก็พากันอออยู่ในห้องครัวเพื่อชมวิธีการทำ ฉินสือโอวนำหัวปลาใส่ลงไปในหม้อนึ่งที่มีพริกสับ กระเทียมและขิงบดที่เตรียมไว้อย่างคล่องแคล่ว นึ่งประมาณสองนาที จากนั้นเปิดฝาหม้อเติมน้ำมันหอย ซอสปรุงรส เหล้าทำอาหาร น้ำส้มสายชู ต่อด้วยโรยพริกป่นกับน้ำเชื่อมนิดหน่อย แล้วนึ่งต่อ
ตรงนี้นึ่งหัวปลาไว้ ฉินสือโอวก็ไปอีกที่เตรียมทำน้ำสต็อค ส่วนผสมจะมีพริกทอด โป๊ยกั๊ก มะแข่น และพริกไทย รอจนหัวปลาสุก ก็นำน้ำสต็อคเทลงไป และรอจนได้กลิ่นเผ็ดร้อน ชาลิ้นจากน้ำมันโชยมา เท่านี้อาหารจานนี้ก็เสร็จแล้ว
เมื่อทำหัวปลาเสร็จ ก็ได้เวลาอาหารแล้ว
ในสวนสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ฉินสือโอวนำโต๊ะกลมตัวใหญ่ที่สั่งทำไว้ก่อนหน้านี้มาวาง ตามด้วยเสริ์ฟอาหารจานต่างๆ ทุกคนนั่งลงพร้อมทานอาหาร
ก่อนลงมือทาน เออร์บักชูแก้วเหล้ากล่าวคำอวยพรอย่างเคย ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานอาหารมาให้ ขอบคุณฉินสือโอวที่ยุ่งตลอดช่วงบ่ายมานี้เพื่อเตรียมอาหารค่ำสุดแสนวิเศษนี้ จากนั้นก็วางเบียร์ ไวน์ ทุกคนก็เริ่มกินดื่ม
ฉินสือโอวนำเหล้าเหมาไถและอู่เหลียงเย่(เหล้าที่มีชื่อเสียงของจีน)ที่ตนนำมาจากจีนออกมา พร้อมแนะนำว่า “นี่คือเหล้าขาวที่ดีที่สุดของประเทศฉันเอง ฉันกล้าพูดว่า เหล้านี่ถือว่าเป็นหนึ่งในเหล้าขาวที่ดีที่สุดในโลกเช่นกัน มาเถอะ สหายทั้งหลาย ลองชิมกัน คืนนี้พวกเราไม่เมาไม่เลิก!”
…………………………………………………..