ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 52 กิจกรรมยิงปลา

ทุกวัน เครื่องบินเพื่อการเกษตรอูฐหนอกเดียวจะออกบินสิบกว่ารอบเพื่อโปรยเมล็ดครั้งละหนึ่งตัน

สำหรับกุ้งอาร์กติก ปลาหมึกหอม ปลาหมึกกระดองและปลาตัวเล็กแล้ว เมล็ดสาหร่ายก็เป็นอาหารที่สุดยอดชนิดหนึ่ง ทั้งเต็มไปด้วยสารอาหาร และรสชาติดี ฉะนั้นทุกครั้งที่โปรยเมล็ด จะมีครึ่งหนึ่งที่เข้าท้องพวกมันไป

นี่คือสาเหตุที่ฉินสือโอวจำเป็นต้องซื้อเมล็ดแปดแสนดอลลาร์แคนาดา อย่าคิดว่าตัวเลขนั้นดูสูง เพราะตอนโปรยลงทะเลจริงๆแล้วก็ไม่เยอะเลย

เมล็ดเหล่านั้นจะถูกสัตว์น้ำในทะเลกินไปครึ่งหนึ่ง ไม่โตก็ส่วนหนึ่ง ถูกคลื่นซัดไปส่วนที่ลึกของทะเลก็อีกส่วนหนึ่ง สุดท้ายที่จะเหลืออยู่ในเขตพื้นที่ประมงอย่างมากก็สี่ส่วน และจะกลายมาเป็นพื้นฐานการพัฒนาของพื้นที่ประมงในอนาคต

ฉินสือโอวไม่จำเป็นต้องคุมการโปรยเมล็ด คนขับเครื่องบินจะรับผิดชอบเอง เขาก็เลยมีเวลาว่าง

เริ่มเข้าสู่เดือนพฤษภาคม อากาศเริ่มอุ่นขึ้น กิจกรรมในเมืองแฟร์เวลก็เริ่มคึกคัก

วันที่สองหลังจากที่ฉินสือโอวกลับมาที่พื้นที่ประมงเขาออกไปวิ่งเป็นเพื่อนวินนี่ในตอนเช้า นีลเซ็นเข้ามาหาเขาอย่างตื่นเต้นก่อนจะถามขึ้น “บอส วันนี้มีกิจกรรมยิงปลา อยากจะไปร่วมด้วยไหม?”

สำหรับกิจกรรมยิงปลา ฉิยสือโอวเคยได้ยินมาบ้าง กิจกรรมนี้เป็นที่นิยมในแถบอเมริกาเหนืออย่างมาก ที่ต้องทำก็คือล่าปลาไนเอเชียในทะเลสาบ

ปลาไนเอเชียเป็นชื่อเรียก ไม่ใช่แค่ปลาไนเท่านั้น รวมถึง ปลาไน ปลาเฉาดำ ปลาเฉา ปลาเกล็ดเงินแปดชนิดที่เดิมทีมาจากเอเชีย ปลาเหล่านี้ถูกเรียกรวมกันว่าปลาไนเอเชียในเขตอเมริกาเหนือ

ปลาเอเชียมาโผล่ไกลถึงเขตอเมริกาเหนือได้ไง?

เรื่องนี้ต้องเท้าความไปถึงยุค70 ในตอนนั้นเพื่อที่จะทำให้น้ำสะอาดจึงนำเข้าปลามาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แปดชนิดรวมถึงปลาซ่ง ปลาเกล็ดเงิน ปลาเฉาแล้วเอามาปล่อยที่เขตทะเลสาบเพาะพันธุ์ทางใต้

หลังจากนั้นก็เกิดน้ำท่วมที่ทะเลสาบ ปลาเอเชียเหล่านี้จึงได้โอกาสว่ายไปข้างนอกซึ่งขาดศัตรูธรรมชาติฉะนั้นจึงเริ่มขยายพันธุ์เป็นจำนวนมาก

ที่น่ากลัวก็คือ “ปลาไนเอเชีย” กินได้ทุกอย่าง ทุกๆวันสามารถกินสาหร่ายและแพลงก์ตอนที่มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 40% แบบนี้ “ปลาเอเชีย”จึงแย่งอาหารและที่อยู่กับปลาในท้องถิ่นและกลายเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศน้ำจืดในแถบอเมริกาเหนือ

ก่อนศตวรรษที่21 ปลาไนเอเชียเป็นภัยแค่ในย่านแม่น้ำบางสายของอเมริกา จำนวนของปลาไนเอเชียมีมากถึง90%ของจำนวนปลาทั้งหมด

พอเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่21 ปลาไนเอเชียก็คุ้นเคยกับสภาพอากาศหนาวเย็นของอเมริกาเหนือ ขยายพันธุ์ไปตามสายทะเลสาบทั้งห้าจนไปถึงเขตแคนาดา กลายเป็นภัยต่อการประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของแคนาดา

ในตอนนี้ปลาชนิดนี้ได้ “ยึดครอง” อเมริกาเหนือได้สำเร็จแล้ว กลายเป็นปลาชนิดที่น่ากลัว

ที่เขารู้เรื่องพวกนี้ก็เพราะตอนที่มาถึงใหม่ๆ ฉินสือโอวก็เห็นว่ามีปลาเอเชียมากมายในทะเลสาบเฉินเป่า และปลาพวกนี้ยังกินสาหร่ายและพืชน้ำกันอย่างเป็นบ้าเป็นหลังด้วย จนกระทั่งมีผลต่อการอยู่รอดของปลาในพื้นที่ เขาถามเออร์บักจึงรู้ถึงสาเหตุ

ตอนนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาน้ำจืดทั้งเขตอเมริกาเหนือต้องปรับตัวตามปลาไน ปลาพวกนี้โตไว ตัวใหญ่ ที่ทะเลสาบทั้งห้าแทบไม่มีศัตรูธรรมชาติ และไม่มีคู่ต่อสู้ พวกมันไม่แค่กินอาหารที่จำเป็นต่อความอยู่รอดของปลาในพื้นที่เท่านั้น ยังขยายพันธุ์เร็วด้วยจึงทำลายความสมดุลของระบบนิเวศในทะเลสาบ กระทั่งนำหายนะมาสู่สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นอย่างปลาแซลม่อน

เพื่อที่จะปกป้องปลาในพื้นที่ คนจึงคิดหาวิธีที่จะลดจำนวนปลาไนเอเชีย กิจกรรมยิงปลาจึงถือกำเนิดขึ้น

ปลาไนเอเชียตกใจง่ายมากๆ ขอแค่เรือแล่นไปใกล้พื้นที่ที่พวกมันอาศัยอยู่แล้วส่งเสียงพวกมันก็จะกระโดดขึ้นจากน้ำ ตอนนี้ก็สามารถใช้ธนูกับลูกดอกยิงล่าได้แล้ว

ฉินสือโอวรอวันที่จะได้ร่วมกิจกรรมยิงปลามานานแล้ว แต่ก่อนหน้านี้อากาศหนาวเกินกิจกรรมเลยไม่เริ่มเสียที พอถึงเดือนพฤษภาคมที่สภาพอากาศอุ่นขึ้นในที่สุดก็เริ่มได้

สิบโมงเช้า ฉินสือโอวถือธนูรอกกลมที่เรคเท้าโตให้เขามาแล้วมุ่งไปที่ทะเลสาบเฉินเป่า ชาร์คกับเรดดิคก็มาด้วย พวกเขาใช้รถกระบะลากเรือยนต์มาสองลำกับเรือไม้อีกลำหนึ่ง ทุกคนล้วนถือคันธนูและลูกศร

ก่อนหน้าพวกเขาก็มีชาวเมืองห้าหกสิบกว่าคนมาถึงที่ทะเลสาบเฉินเป่า แน่นอนว่าพวกเขาก็พกธนูกับลูกดอกมาด้วย

ฉินสือโอวเห็นนายกเทศมนตรีวิลเลียม แฮมเล็ตที่กำลังสั่งคนให้วางไมโครเวฟออสซิลเลเตอร์ในทะเลสาบ เครื่องนี้สามารถปล่อยช็อกเวฟผ่านในน้ำ สำหรับคนแล้วคลื่นนั้นไม่มีผลอะไร แต่สำหรับปลากลับน่ากลัวราวแผ่นดินไหว

พอไมโครเวฟออสซิลเลเตอร์ทำงาน ก็เริ่มมีปลากระโดดออกมาเหนือน้ำ แฮมเล็ตพูดผ่านโทรโข่งในมือ “ชาวเมืองทั้งหลาย ชาวเมืองทุกคน! วันนี้เรามาล่ากันให้เต็มที่เถอะ ทะเลสาบเฉินเป่าของเราถูกยึด มีขโมยเข้ามายึดครอง เพื่อปกป้องมัน เราต้องหยิบธนูและลูกศร สู้กับพวกนั้นจนถึงที่สุด!”

“เอาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง!”เด็กหนุ่มเลือดร้อนคนหนึ่งตะโกนออกมา

ฉินสือโอวกอดธนูดูทุกอย่างอย่างจนใจ ก็แค่กิจกรรมหนึ่งเท่านั้น คนพวกนี้กลับทำเป็นสงครามต้านการคุกคาม

เขาไม่เข้าใจความรู้สึกของเหล่าชาวเมือง สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นสงครามต้านการคุกคาม ถ้าปลาไนเอเชียยึดครองทะเลสาบได้หมด ถึงตอนนั้นพวกเขาจะเสียหายมาก นั่นหมายถึงพื้นที่ประมงที่พวกเขามาสามารถจับปลาจะหายไปอีกหนึ่งที่

ปลาไนเอเชียในสายตาชาวเมืองก็เหมือนกับศัตรูพืช ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเขาไม่กินปลาชนิดนี้ ก้างเยอะและกลิ่นเหม็นคาว

แฮมเล็ตเอาปืนพกมาด้วย พอกล่าวจบ เขาก็หยิบปืนขึ้นมายิงขึ้นฟ้า ‘ปัง’ จากนั้นเรือก็ค่อยๆทยอยลงน้ำทีละลำๆ

ฉินสือโอวกับวินนี่จับคู่กัน เธอขับเรือธอร์ฟ้ามืดแล่นไปในทะเลสาบช้าๆ ในขณะที่เขาถือธนูรอกกลมคอยยิง

ตอนนี้ที่ทะเลสาบเฉินเป่าครึกครื้นมาก เพราะไมโครเวฟออสซิลเลเตอร์จึงมีปลากระโดดออกมาไม่ขาดสาย มีไม่น้อยที่เป็นปลาไนเอเชียยาวครึ่งเมตรถึงหนึ่งเมตร

เครื่องยนต์ของธอร์ฟ้ามืดถือว่าเสียงดังมากซึ่งรบกวนปลาไนเอเชียได้มากขึ้น ขับเข้าไปได้ไม่เท่าไร ปลาเฉายาวครึ่งเมตรตัวหนึ่งก็กระโดดขึ้นมาในระยะที่ไม่ไกลมาก

ฉินสือโอวรีบฉวยโอกาสยืนขึ้นบนเรือยนต์ ตั้งสมาธิบิดเอวไปด้านข้าง มือซ้ายถือคันธนู มือขวาดึงสายไปด้านหลัง เล็งไปที่ปลาเฉาแล้วปล่อยลูกศร

‘สวบ’ ลูกศรแหวกไปในอากาศ แตาปลาเฉานั้นได้กลับลงน้ำไปเรียบร้อยแล้ว…..

แต่แบบนี้ก็ไม่เปลืองลูกศร เพราะทุกอันผูกเอ็นเบ็ดไว้แล้ว แค่ถึงกลับมาเท่านั้น

ฉินสือโอวยิงติดๆกันเป็นสิบครั้งแต่กลับยิงไม่โดนปลาเลยสักตัว แต่ขาร์คกับนีลเซ็นนำไปไกล ทั้งสองคนได้อะไรกลับมาแทบจะทุกครั้งของการยิง บนเรือเล็กนั้นแค่ปลาไนกับปลาเฉาความยาวราวหนึ่งเมตรก็ปาไปเจ็ดแปดตัวแล้ว

แบบนี้ฉินสือโอวก็เริ่มอักอ่วน หลักๆก็เพราะว่าเขาอยู่กับวินนี่ ทีแรกกะจะโชว์ความเจ๋งเสียหน่อย

เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ฉินสือโอวนึกถึงสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบนสนามบาสตอนสมัยมหาวิทยาลัย ผู้ชายบางคนที่ครอบครัวฐานะดีก็จะใส่เสื้อผ้าไนกี้ รองเท้าจอร์แดนแอร์ แผ่นรองศอกบนแขน แผ่นรองเข่าบนขา บนหัวมีสายคาดเพื่ออวดหล่อ อุปกรณ์มืออาชีพครบครัน แต่พอลงสนามไปเล่นจริงเจ้าพวกนี้ก็มักจะเล่นห่วย

ตอนนี้ฉินสือโอวก็คือคนประเภทนี้ เขาขับเรือแสนแพง ในมือถือธนูที่แพงที่สุด แต่กลับยิงไม่โดนปลาสักตัว

เรดดิคถือว่าเป็นลูกน้องที่ใช้ได้ เขาสังเกตเห็นฉินสือโอวที่คว้าน้ำเหลวจึงหัวเราะพลางเข้ามาชี้แนะ “บอส ยิงปลาเขาไม่ได้ยิงกันแบบนี้ จะเล็งเป๊ะๆไม่ได้ ต้องกะเอา พอรู้สึกได้ว่าปลาจะโดดขึ้นมาก็ยิงออกไปเลย!”

“อีกอย่าง ต้องระวังเรื่องมุม เล็งลงนิดหนึ่ง เพราะพอปลากระโดดขึ้นเหนือน้ำก็จะรีบกลับลงไปให้เร็วที่สุด พอยิงออกไปต่อให้ไม่ได้เล็งเป๊ะๆแต่ก็มักจะยิงได้ปลาที่กำลังร่วงลง ถ้าปลากลับลงน้ำไปแล้วก็ปล่อยมัน ไม่ต้องยิงแล้ว เพราะการหักเหใต้น้ำทำให้ตำแหน่งของปลามักดูผิดไปจากตำแหน่งจริง”

ฉินสือโอวลองทำไปตามความรู้สึก ปลาซ่งสีดำตัวหนึ่งก็กระโดดออกมาข้างๆ เขารีบยิงธนูออกไปทันที!

แรงแขนของเขาน่าทึ่ง แรงยิงจากคันธนูรอกกลมก็แกร่ง ลูกศรถูกยิงพุ่งออกไปราวดาวตกพร้อมเสียงสวบที่ดังขึ้น พุ่งไปปักทะลุข้างลำตัวของปลาซ่ง!

ในที่สุดก็ยิงโดนแล้ว! ฉินสือโอวน้ำตาแทบไหล วินนี่ก็ปรบมือให้เขา เขาจึงได้แต่ทำเป็นพูดไปงั้นๆ “ในที่สุดก็กะได้แล้ว เมื่อกี้จับทางไม่ถูก”

วินนี้เม้มปากยิ้มบาง ไม่แฉคำโกหกของเขา ตามหน้าที่ที่แบ่งกันไว้ เธอดึงเอ็นเบ็ดกลับมาแล้วดึงลูกศรออกจากตัวปลาซ่ง แล้วร้อยเชือกก่อนจะแขวนไว้ที่ท้ายเรือยนต์

นี่เป็นปลาตัวแรกที่จับได้เลยนะเนี่ย ฉินสือโอวชูปลาซ่งตัวอ้วนขึ้นมาพลางอุทาน

เหมือนกับปลาซ่งของจีน ลักษณะเฉพาะของปลาซ่งตัวนี้ก็คือใหญ่ หัวใหญ่มาก ปากก็ใหญ่กว้าง ริมฝีปากปลางอนขึ้น เหงือกก็ใหญ่เช่นกัน

ในหมู่ปลาน้ำจืดของจีน ปลาซ่งเป็นปลาที่ค่อนข้างมีค่า โปรตีนในเนื้อสูง ไขมันน้อย คอเลสเตอรอลต่ำ กินบ่อยๆสามารถช่วยในเรื่องบำรุงระบบหัวใจและหลอดเลือดได้มาก กระทั่งมีสรรพคุณรักษาอาการหูอื้อ วิงเวียนศีรษะ

แต่ที่อเมริกาเหนือ ปลาชนิดนี้ไม่มีใครกิน ชาวเมืองดับกลิ่นคาวปลากันไม่เป็น เลยทำปลาซ่งกันไม่อร่อย

ฉินสือโอวเก็บปลาที่ตัวเองยิงได้ทั้งหมด เอากลับไปทำกับข้าวกินได้ ถ้าเหลือยังเอามาทำเกี๊ยวปลาได้ด้วย ดีออก!

……………………………………………………