บทที่ 50 กลับสู่เมืองแฟร์เวล
"ที่แท้คุณก็เป็นเศรษฐีนี่เอง ถึงขนาดรู้จักกับเจ้าชายอาฟิฟเสียด้วย" วินนี่เย้าหลังลงมาจากเรือ
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆตอบ "ผมเป็นเศรษฐีอะไรกัน ก็แค่เคยเจอกับอาฟิฟมาก่อนเท่านั้นเอง"
แต่การจะเรียกอาฟิฟว่าเป็นเจ้าชายก็คงไม่เกินจริงนัก ลุงของเขาคือพระราชาแห่งอาบูดาบีในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
หลังได้ชมเรือยอชต์สุดหรูมาแล้ว เรือเล็กลำอื่นๆ ก็ดูจะไม่อยู่ในสายตาทั้งสองคนอีกต่อไป ฉินสือโอวและวินนี่เดินมองผ่านๆ สักพักก็เตรียมตัวกลับ ทว่าก่อนจะไปก็เหลือบเห็นเรือยอชต์ทรอลเลอร์ลำหนึ่งเข้า ฉินสือโอวจึงเริ่มสนใจทันที
เรือยอชต์ทรอลเลอร์ก็คือเรือประมงที่นำมาดัดแปลงนั่นเอง เรือประเภทนี้สามารถใช้เป็นทั้งที่พัก และที่จับปลาได้ มีอวนติดตั้งพร้อม แต่โครงสร้างเต็มไปด้วยความหรูหรา พร้อมสมรรถนะแบบเรือยอชต์
หากดูความเป็นมาของเรือยอชต์ ช่วงแรกๆมันก็ดัดแปลงมาจากเรือประมงทั้งนั้น เดิมการตกปลาถือเป็นกิจกรรมความบันเทิงแบบหนึ่ง ดังนั้นเรือยอชต์ส่วนใหญ่จึงมักมีเบ็ดหรืออวนไว้ให้
เบ็ดตกปลาที่เรือเล็กใช้มักจะมีขนาดเล็ก และไม่สามารถใช้พักแรมในทะเลตอนกลางคืนได้ จึงต้องไปกลับภายในวันเดียวทุกครั้ง ทำให้ไปได้ไม่ไกลมาก การตกปลาในทะเลเลยมีข้อจำกัดหลายอย่าง
แต่เรือยอชต์ทรอลเลอร์ช่วยแก้ข้อจำกัดมากมายเหล่านั้นได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการพักแรม สามารถขยายขอบเขตการจับปลาไปถึงน้ำลึกได้ จะหว่านแห ตกปลา ล่องเรือเล่น พักแรมล้วนมีหมดในหนึ่งเดียว
เรือยอชต์ทรอลเลอร์ที่นำมาแสดงในงานก็มีไม่น้อยอย่าง Riva, Wally, Sunseeker, Benetea, Bertram และอื่นๆที่ธุรกิจยักษ์ใหญ่นำสินค้ามาจัดแสดงกัน ฉินสือโอวดูสักพัก ก่อนมองไปยังเรือของบริษัท Ferretti ลำหนึ่ง
ชื่อภาษาจีนของ Ferretti คือบริษัทฟ่าลาตี่ ก่อตั้งเมื่อปี 1968 ที่อิตาลี บริษัทออกแบบเรือยอชต์หรูที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป สินค้าบริษัทนี้ขึ้นชื่อเรื่องความละเอียด ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวยุโรป
เทศกาลจะว่าเล็กก็เล็ก จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ การสนทนาระหว่างฉินสือโอวกับอาฟิฟล้วนอยู่ในสายตาของพวกพนักงานแนะนำสินค้า ในยุคแห่งการแชร์ข้อมูลเช่นนี้ ไม่นานพนักงานบริษัทเรือยอชต์ทั้งหมดก็รู้เรื่องที่ฉินสือโอวได้คุยกับเศรษฐีอาหรับ แสดงว่าเขาก็ต้องเป็นคนมีฐานะแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ เมื่อเห็นฉินสือโอวหยุดดูเรือยอชต์ พนักงานบริษัทเฟอริทติจึงตรงเข้ามา แนะนำเรือให้เขาทันที
"นี่คือเรือยอชต์ทรอลเลอร์ที่ทางบริษัทเราออกแบบไว้เมื่อปีที่แล้ว เรียกว่า 'เรือยอชต์น้ำหนึ่ง' ตอนนี้ยังไม่มีการผลิตเพิ่ม มีเพียงห้าลำบนโลกเท่านั้นครับ"
"ด้านนอกเรือทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา แบบเดียวกับที่กระสวยอวกาศของอเมริกาใช้ ทนต่อการผุกร่อนและแรงกระแทก แต่น้ำหนักเบามาก"
"ขนาดของเรืออยู่ที่ 25 เมตร ช่วงหน้า 15 เมตรเป็นโครงสร้างแบบเรือยอชต์ ช่วงหลัง 10 เมตรเป็นโซนที่ติดตั้งอวนไว้ แม้เรือลำนี้จะผสมเรือสองแบบเข้าด้วยกัน แต่มีดีไซน์สวยงาม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม"
"เรือนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นแรกมีสี่ห้อง ห้องนอน ห้องครัว บาร์และห้องน้ำ ชั้นสองคือพื้นที่ใช้สอย คุณจะปรับแต่งยังไงก็ได้ เป็นห้องนอนใหญ่ โฮมเธียเตอร์ ฟิตเนส ได้ทุกอย่าง ชั้นสามคือห้องรับแขก ที่สามารถยืนมองทะเลได้รอบทิศ เห็นวิวได้ขนาดนี้ ดีใช่ไหมล่ะครับ?"
"เรือลำนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังจากใบจักรเรือยนต์ทั้งสี่ของสวีเดน วอลโว รวมถึงสมรรถนะและน้ำมันเตาที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ระบบพลังงานแบบIPG ดีไซน์น้ำหนักเบา เก็บเสียง แรงสั่นน้อย ง่ายต่อการติดตั้งซ่อมแซม"
"ใบจักรเรือยนต์ทั้งสี่แยกการใช้พลังงานเป็น 250 แรงม้า และ 500 แรงม้า จึงเร่งความเร็วได้ไม่มาก แต่เรือยอชต์ทรอลเลอร์ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วครับ เพราะมันใช้สำหรับตกปลาและท่องเที่ยว มีการติดตั้งอวนตรงท้ายเรือไว้เรียบร้อยโดยบริษัท AK อเมริกัน โดยใช้ระบบอัตโนมัติขั้นสูง คุณเพียงกดแค่ปุ่มเดียว ก็สามารถปล่อยอวนหรือลากอวนได้เลย..."
ฉินสือโอวดูแล้ว ในใจก็โดนตกไปเรียบร้อย เขากำลังต้องการเรือประมงลำหนึ่ง และเรือยอชต์ลำหนึ่ง ซึ่งเรือยอชต์ทรอลเลอร์นี้ช่วยแก้ปัญหาของเขาได้พอดี พอฟังคำแนะนำเสร็จจึงถามว่า "ราคาเท่าไรครับ?"
พนักงานกล่าวอย่างกระตือรือร้น "ราคาเดิมอยู่ที่ 185 ล้านดอลลาร์แคนาดา แต่มีส่วนลดจากการเข้าร่วมงานเทศกาล เหลือราคา 155 ล้านดอลลาร์แคนาดาครับ"
ราคานี้ยังอยู่ในขอบเขตที่ฉินสือโอวรับได้ แต่เขายังไม่ทันพูดอะไร วินนี่ก็ขัดขึ้นเสียก่อน "พระเจ้า คุณคงไม่คิดจะซื้อไอ้นี่จริงๆหรอกใช่ไหม? 155 ล้านเลยนะ คุณคิดดู ถ้าคุณจะซื้อเรือยอชต์ ที่ราคาตั้ง 155 ล้าน สู้ไปซื้อแต่เรือประมง ที่ราคาถูกกว่า แค่ 30 ล้านเองดีไหม!"
155 ล้านดอลลาร์แคนาดา ถ้าแปลงเป็นหยวนก็คือ 700 กว่าล้าน!
ด้วยราคาเท่านี้จะซื้อเรือยอชต์เกรดต่ำมาสักลำ ก็ซื้อได้ แต่จะซื้อเพื่อเรือยอชต์ทรอลเลอร์ลำเดียว คงไม่ค่อยคุ้ม
ทว่า ก็ยังมีคำกล่าวว่าของมีคุณภาพย่อมเยาตามราคา แล้วเรือยอชต์น้ำหนึ่งลำนี้ก็ถูกสร้างมาอย่างดี ไม่ว่าคุณภาพหรือระบบเครื่องยนต์ ก็ถือว่าเป็นสินค้าระดับสูงในหมู่เรือยอชต์ทีเดียว ภายในดาดฟ้าสามชั้นก็ดูหรูหรา เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยมาก
ฉินสือโอวหลับตานึก สักวันจะได้ขับเรือยอชต์ทรอลเลอร์ล่องในทะเลเล่น ตกปลา ทำบาร์บีคิวกลางทะเล จัดงานกินเลี้ยง ได้จัดงานวันเกิดบนเรือยอชต์ทรอลเลอร์ คงจะดีงามไม่น้อย
สุดท้ายฉินสือโอวก็ตัดสินใจ เอ่ยว่า "ซื้อครับ!"
วินนี่แบมือเหมือนจะบอกว่าช่วยไม่ได้นี่นะ ฉินสือโอวเตรียมจะรูดบัตร เธอก็ทำมือบอกให้รอก่อน แล้วเริ่มเข้าไปเจรจากับพนักงาน "คุณคะ เรือลำนี้ไม่เลวก็จริง แต่ฉันก็ยังคิดว่ามันไม่คุ้มกับราคา 155 ล้านอยู่ดี บอกราคาจริงให้พวกเราทราบเถอะค่ะ ถ้ายอมบอก วันนี้คุณได้โชคใหญ่แน่"
พนักงานตอบไปตามตรง "นี่ไม่ใช่เรือเล็กๆนะครับ นี่คือเรือยอชต์ทรอลเลอร์ชั้นเยี่ยม ราคา 155 ล้านถือว่าเหมาะสมแล้ว แน่นอนว่า ถ้าพวกคุณต้องการจะซื้อจริงๆ ทางเราสามารถมอบของแถมเพิ่มให้เป็นพิเศษได้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนกับห้องครัว และอวนจับปลาอีกสองปากครับ"
วินนี่สะบัดผมนุ่มสีดำ แย้มรอยยิ้มอ่อนโยน กล่าวว่า "ไม่ พ่อรูปหล่อ ราคานี้มันไม่แฟร์เลย บอกราคาที่ทำให้พวกเรายอมรับได้หน่อยสิ ไม่งั้นเราแค่ไปดูของเจ้าอื่นแทนก็ได้ คุณก็รู้ ที่นี่มีร้านขายเรือยอชต์อีกเยอะ"
หลังต่อรองอีกเล็กน้อย บวกกับวินนี่ที่ใช้เสน่ห์เข้าช่วย ในที่สุดพนักงานคนนั้นจึงยอมถอยแต่โดยดี เป็น 140 ล้าน ในที่สุดก็ได้เรือยอชต์ทรอลเลอร์สุดหรูมาครอง
"ตั้งชื่อให้มันสิครับ นับแต่นี้มันกลายเป็นของคุณแล้วนะ" ฉินสือโอวจ่ายเงินหลังได้รับส่วนลดไป 35% พนักงานคนนั้นก็พูดขึ้นด้วยความยินดี
ฉินสือโอวให้วินนี่ช่วยคิดชื่อ แต่อีกฝ่ายก็ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลว่า "ฉิน นี่คือเรือของคุณ และเป็นเรือลำแรกด้วย จากนี้มันจะเป็นเพื่อนร่วมทางสู่ทะเลของคุณ เพราะงั้นคุณควรเป็นคนตั้งชื่อเอง"
ด้วยเหตุนี้ ฉินสือโอวจึงพยายามครุ่นคิด ก่อนเอ่ยว่า "ชื่อ 'นางนวล' ก็แล้วกัน"
นางนวลเป็นนกทะเลที่เขาชอบที่สุด แล้วชื่อเขาก็มีตัว 'โอว' (นางนวลภาษาจีนคือไห่โอว) เหมือนกัน และความสามารถหลักของเรือลำนี้คือการจับปลา ซึ่งนางนวลเป็นนกที่เชี่ยวชาญการจับปลาเช่นกัน เขาจึงเลือกตั้งชื่อนี้นั่นเอง
พนักงานนำหนังสือภาพเล่มหนามา ให้ฉินสือโอวเลือกสไตล์การตกแต่ง จากนั้นจึงให้คนนำเฟอร์นิเจอร์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดขึ้นไปตั้ง
ไม่นาน ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมง เรือยอชต์ทรอลเลอร์สุดหรูก็พร้อมเดินทาง
บนดาดฟ้ามีเก้าอี้ยาวสี่ตัว เวลาเรือออกทะเล สามารถมานอนรับแสงอาบแดดได้
ดาดฟ้าชั้นหนึ่งในห้องทั้งสี่ ตกแต่งด้วยเตียง โต๊ะ ทีวีแบบต่างๆ และยังมีบาร์เล็กกับห้องครัวอย่างละหนึ่ง ตัวชั้นสองและชั้นสามนั้นยังตกแต่งไม่เรียบร้อย เพียงวางของเอาไว้ก่อน จนทั้งสองห้องกลายเป็นห้องรับแขกไป
โทรอนโตมีทางน้ำที่เชื่อมถึงทะเลได้โดยตรง ฉินสือโอวเลือกจะนั่งเรือลำนี้กลับนิวฟันด์แลนด์ ทางบริษัทเฟอริทติจึงทำหน้าที่ส่งกัปตันเดินเรือมากประสบการณ์สองนายและลูกเรืออีกสองนายมาขับส่งฉินสือโอวกลับ
หลังเติมน้ำมันดีเซลแล้ว นางนวลโฉมใหม่ก็เปิดหวูด ออกจากที่จอดเข้าท่าเรือ แล้วขับไปตามเส้นทาง
ฉินสือโอวอยู่บนดาดฟ้าเรือ ยืดแขนบิดขี้เกียจอย่างฮึกเหิมเอ่ยว่า "ไปอีกหน่อย ก็จะมีแค่ดวงดาวกับทะเล ไกลสุดลูกหูลูกตาพวกเราแล้ว!"
วินนี่ทาครีมกันแดด สวมแว่นกันแดดนอนบนเก้าอี้ยาว ยกยิ้มกล่าว "ดูเหมือนฉันจะเลือกที่พักร้อนถูก ถึงโดนเรือยอชต์ส่งมาที่ฟาร์มปลาของคุณ ควรบอกว่าฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากดีไหมเนี่ย?"
ฉินสือโอพิงรั้วดาดฟ้า ยิ้มตอบ "ไม่ต้องหรอก คราวหน้า เดี๋ยวผมเอาเรือยอชต์มารับคุณอีก เป็นไง?"
วินนี่หยิบแก้วไวน์ขึ้นมา "ก่อนถึงวันนี้ คุณดูแลฟาร์มปลาของคุณให้ดีๆเถอะ รู้ใช่ไหม ราคาเรือยอชต์มันสูงมากเลยนะ"
เรือยอชต์ทรอลเลอร์สีขาวหิมะแล่นไปในแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์อย่างมั่นคง ทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำสองข้างทางถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง น้ำกระเซ็นกระทบท้ายเรือ กระจายเป็นโฟมคลื่น ราวกับนักรบผู้กล้าหาญองอาจ เร่งรุดสู่ทะเลลึก
ความเร็ว 20 นอตนอกจากจะไม่เร็วแล้ว ยังเทียบกับดาร์กธอร์เจ็ทสกีของฉินสือโอวไม่ติดอีก ความต่างมันอยู่ที่เครื่องยนต์เบนซินกับเครื่องยนต์ดีเซล อันหนึ่งโดดเด่นเรื่องพลังความแรง ส่วนอีกอันโดดเด่นเรื่องความทนทาน
โทรอนโตอยู่ห่างจากเซนต์จอห์นไม่เกิน 2500 กิโลเมตร ด้วยความเร็วของเรือยอชต์ทรอลเลอร์ น่าจะใช้เวลาประมาณหกเจ็ดชั่วโมง วันหยุดของวินนี่ยังเหลืออีกครึ่งเดือน ฉินสือโอวไม่อยากเสียเวลาอยู่บนเรือยอชต์นาน จึงชวนวินนี่ไปนั่งเครื่องบินแทนเมื่อถึงออนตาริโอ
วินนี่ปฏิเสธทั้งรอยยิ้ม เอ่ยว่า "นั่งเรือยอชต์ไม่ดีหรือ? ไหนๆฉันก็มีเวลาอยู่เหลือเฟือ ฉิน ฉันนั่งเครื่องบินมาพอแล้ว และการได้อยู่เงียบๆบนเรือยอชต์แบบนี้ ฉันรู้สึกสบายใจกว่า "
เรือยอชต์เข้าสู่ความสงบอย่างแท้จริง มันลอยลำช้าๆไปในแม่น้ำเซนต์จอห์นอันกว้างใหญ่ บางครั้งก็มองไม่เห็นตัวเรือไปนานนับชั่วโมง เหมือนมันกลืนหายไปกับโลก ราวกับ 'เรือร้างอันว่างเปล่า' ก็ไม่ปาน…
....................................................