ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 5 หีบสมบัติในทะเลสาบเฉินเป่า

ยามเช้าที่มีอากาศหนาวเย็นของช่วงฤดูใบไม้ผลิ เออร์บักพาฉินสือโอวกลับไปส่งที่โฮสเทล ภายในห้องอาบน้ำฉินสือโอวปรับอุณหภูมิน้ำแล้วเอนกายลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ก่อนเริ่มครุ่นคิดถึงความเปลี่ยนแปลงอันน่าแปลกประหลาดที่เขาได้พบเห็น

อย่างแรกเขามั่นใจว่าหัวใจโพไซดอนหายไปแล้ว ตอนนี้บนลำคอของเขาเหลือเพียงเชือกแดงหนึ่งเส้นเท่านั้น นอกจากนี้หลังจากการทดลองมาหลายครั้งเขาก็พบว่าภาพก่อนหน้านั้นไม่ใช่ความเข้าใจผิดของเขา แท้จริงแล้วเขาสามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนไหวของน้ำในทะเลสาบเฉินเป่าได้จริงๆ

เขาสามารถมองเห็นทุกอย่างในทะเลสาบเฉินเป่า ตั้งแต่ผืนน้ำจนถึงก้นทะเลสาบราวกับว่าจิตสำนึกของเขาสามารถดำดิ่งลงไปในน้ำได้ อีกทั้งยังสามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนไหวของน้ำกว่าร้อยลูกบาศก์เมตรได้

แม้ร่างกายแช่อยู่ในอ่างน้ำอุ่น แต่จิตสำนึกของฉินสือโอวกลับอยู่ที่ทะเลสาบเฉินเป่า ภายใต้ขอบเขตการควบคุมด้วยจิตสำนึกของเขา ผืนน้ำล้วนโปร่งใส ไม่ว่าแสงอาทิตย์จะสาดส่องมาลึกแค่ไหน แม้จะเป็นก้นทะเลสาบที่มืดสลัว แต่ในจิตใต้สำนึกของเขากลับสว่างราวกับเวลากลางวัน!

ทะเลสาบเฉินเป่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดทั่วไป พื้นที่บริเวณโดยรอบใกล้ก้นทะเลสาบล้วนเป็นทรายขาวละเอียด บางครั้งก็มีปลาเฉาฮื้อหรือพวกปลาคาร์ฟตัวเล็กๆ มุดอยู่ในโคลนทรายอย่างมีความสุข และเมื่อพวกมันมุดออกมาก็จะทำให้ตะกอนตะไคร่น้ำฟุ้งออกมาก่อนที่พวกมันจะอ้าปากกลืนกินเข้าไป

นั่นทำให้ฉินสือโอวรู้สึกสงสัยมาก ในฐานะที่เขาเป็นคนชื่นชอบทะเล เพียงมองแวบเดียวเขาก็สามารถระบุชนิดของปลาเหล่านี้ได้ หลังสีดำ ท้องสีขาว ลำตัวอ้วนสั้นแข็งแรง ปลาตัวเล็กที่กินสิ่งต่างๆ เป็นอาหารชนิดนี้น่าจะเป็นปลาเฉาฮื้อกับปลาคาร์ฟที่เขาเคยเห็นบ่อยๆ จากสระน้ำที่บ้านเก่าสมัยที่เขายังเป็นเด็ก

แคนาดาก็มีปลาน้ำจืดโบราณของจีนเหมือนกันหรือ? ฉินสือโอวไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร

จิตสำนึกเคลื่อนย้ายจากน้ำตื้นบนชายหาดสู่น้ำลึก พวกปลาขนาดใหญ่เริ่มปรากฏตัวขึ้นมา แต่ก็ยังเป็นปลาเฉาฮื้อ ปลาคาร์ฟหรือไม่ก็ปลาช่อนเสียส่วนใหญ่

ปลาเฉาฮื้อและปลาคาร์ฟบางตัวมีขนาดลำตัวยาวกว่าหนึ่งเมตร ท่าทางของพวกมันดูเปี่ยมไปด้วยพละกำลังและดุร้าย ท่าทางการว่ายก็ฉวัดเฉวียนไปมาอย่างถือดีราวกับตนเองเป็นเจ้าแห่งทะเลสาบเฉินเป่าแห่งนี้

วัชพืชน้ำกลุ่มหนึ่งโบกสะบัดขึ้นมา จิตสำนึกของฉินสือโอวเคลื่อนผ่านไป คราวนี้เป็นปลาไหลตัวน้อยยาวประมาณยี่สิบเซนติเมตรมุดออกมาจากดงวัชพืชน้ำ

เขาลองพินิจดู ปลาไหลน้อยสีเทาทองพวกนี้ด้านบนเต็มไปด้วยจุดสีดำ ลักษณะคล้ายกับปลาไหลสวนจุดดำที่เขาเคยเห็นในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเป็นอย่างมาก ปลาไหลสวนจุดดำเป็นปลาน้ำจืดที่พบได้บ่อยในทวีปอเมริกาเหนือ จึงทำให้เขาเกิดความประทับใจขึ้นมา ปลาไหลสวนจุดดำสองตัวนี้อ้าปากหาเมล็ดพันธุ์วัชพืชน้ำกินเป็นอาหาร สุดท้ายกลับมีปลาเฉาฮื้อขนาดโตเต็มวัยที่มีความยาวเท่าแขนส่งเสียงคำรามพุ่งเข้ามา ปากใหญ่อ้าออกกว้างก่อนจะกินกลุ่มก้อนสาหร่ายน้ำนั้นเข้าไป ‘กร้วมกร้วม’

ปลาไหลสวนจุดดำตกใจว่ายหนีไป ปลาเฉาฮื้อกินสาหร่ายไม่หยุด และหลังจากที่มันกินจนหนำใจแล้วถึงได้ส่ายหัวส่ายหางว่ายน้ำจากไป

น่าสนใจจริงๆ ฉินสือโอวสัมผัสได้ถึงความโกรธจากปลาไหลสวนลายจุดสองตัวนั้น

ปลาไหลโมโห? ฉินสือโอวอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

จากนั้นจิตสำนึกของเขาก็แหวกว่ายต่อไป เขาก็พบปลาไพค์ในทะเลสาบ ปลาจวดทะเลสาบบอลข่าน ปลากะพงแดงและปลากะพงดำต่างๆ แต่ส่วนมากก็ยังเป็นปลาคาร์ฟและปลาเฉาฮื้อ โดยปลาเฉาฮื้อนั้นจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว

โลกใต้ทะเลสาบแม้จะไม่ได้อุดมสมบูรณ์เท่าบนพื้นดิน แต่ก็มีสีสันที่สวยงามหลากหลาย จิตสำนึกของเขาเพียงเคลื่อนไหวไปมาอยู่ในส่วนเล็กๆ ของทะเลสาบ แต่เขาก็ได้เห็นปลาหลายสิบชนิดซึ่งส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นปลาที่เขาไม่รู้จัก และวัชพืชน้ำแปลกๆ พวกนั้นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

ฉินสือโอวคิดมาตลอดว่าปลาน้ำจืดนั้นมีอยู่ไม่กี่ชนิด เขานับว่าได้เรียนรู้มากขึ้นในทะเลสาบเฉินเป่า แท้จริงแล้วปลาน้ำจืดก็มีสีสันและความงดงามหลากหลาย น่าเสียดายที่เมื่อก่อนเขาเอาแต่สนใจปลาไม่กี่ชนิด ส่วนปลาที่เขาได้พบในตอนนี้ก็เป็นปลาที่เขาไม่รู้จักถึงแปดเก้าส่วน

กว่าจะเคลื่อนย้ายจิตสำนึกไปถึงกลางทะเลสาบเฉินเป่าก็ต้องใช้เวลากว่าสองชั่วโมง ฉินสือโอวเปลี่ยนน้ำไปแล้วสี่ครั้ง สุดท้ายเขาย้ายตัวขึ้นมาบนเตียงแล้วขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเพื่อเที่ยวชมทะเลสาบต่อ แต่เมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าและกำลังจะดึงจิตสำนึกกลับมาพักเอาแรง

ทันใดนั้นปลาคาร์ฟตัวใหญ่ยาวขนาดครึ่งเมตรก็พุ่งออกมาอย่างฉับพลันโดยมีปลาเทราต์สีสันสวยงามกำลังไล่ตามข้างหลัง ไม่รู้ว่าทำไมปลาเทราต์เจ็ดสีตัวนี้ถึงได้โกรธจัดจนต้องแยกเขี้ยวยิงฟันตามไล่ฆ่ามาด้านหลังเช่นนี้

ปลาคาร์ฟถูกไล่ตามจนไร้ซึ่งทางหนีจึงเอาหัวมุดเข้าไปในดินก้นทะเลสาบ มันคงคิดจะขุดเข้าไปหลบในดินเลนที่ทับถมกันอย่างหนาแน่นแน่ๆ แต่ปรากฏว่าเมื่อมันชนเข้ากับดินเลน ทันใดนั้นดินก้นทะเลสาบก็ถล่มลงไปและเผยให้เห็นถ้ำกว้างสามถึงสี่ตารางเมตร

ปลาเทราต์เจ็ดสีไล่ตามหลังมาติดๆ ปลาคาร์ฟก็ยิ่งว่ายหนีไกลออกไป ฉินสือโอวเห็นถ้ำขนาดใหญ่ที่ก้นทะเลสาบก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาจึงใช้จิตสำนึกเข้าไปสำรวจดูสักหน่อย

ภาพคราวนี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นตูมตามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เพราะอยู่ๆ เขาก็มองเห็นหีบใบไม้สองใบที่ถูกทับถมอยู่ในถ้ำใต้ดินเลนที่ก้นทะเลสาบแห่งนี้

หีบไม้สองใบนี้มีขนาดเล็กกับขนาดใหญ่ ทั้งสองใบเป็นหีบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ใบใหญ่กว้าง ยาว สูง ประมาณหนึ่งเมตรครึ่ง ส่วนใบเล็กนั้นมีขนาดประมาณด้านละแปดสิบเซนติเมตร หีบไม้ทั้งคู่ดูเก่าแก่ ทั้งยังมีโซ่เหล็กล็อกไว้อย่างแน่นหนาจนชวนให้ผู้พบเห็นคิดถึงหีบสมบัติลับในตำนาน

ตำแหน่งที่ตั้งของหีบไม้ตั้งอยู่เกือบจะตรงกลางของใต้ทะเลสาบ ฉินสือโอวคาดว่าตรงกลางของก้นทะเลสาบเฉินเป่าน่าจะลึกประมาณแปดสิบกว่าเมตร ในน้ำที่ลึกขนาดนี้คาดว่าคงต้องใช้ทีมกู้เรือมืออาชีพเท่านั้น

นี่ทำให้ฉินสือโอวกลุ้มใจมาก ตอนนี้เขาจะเอาเงินที่ไหนไปจ้างทีมกู้เรือ ต่อให้เขามีเงินพอ เมืองแฟร์เวลแห่งนี้ก็จะมีทีมกู้เรืออยู่หรือ?

ถ้าหากจิตสำนึกของเขาสามารถยกหีบสมบัติขึ้นมาได้คงดี ฉินสือโอวคิดอย่างเสียดาย

แต่หลังจากความคิดนั้นผุดวาบขึ้นมา ทันใดนั้นน้ำในทะเลสาบรอบๆ หีบไม้ก็เริ่มแยกออกจากกันก่อนที่หีบไม้จะถูกยกขึ้นมาภายใต้กระแสน้ำที่สาดซัดรุนแรงและแรงดันน้ำมหาศาล!

ฉินสือโอวถึงกับตกตะลึง!

หัวใจของเขาสั่นระริก จิตสำนึกก็ยุ่งเหยิงจนหีบไม้ที่ลอยขึ้นมาโคลงเคลงร่วงลงสู่ก้นทะเลสาบและกวนตะกอนดินทรายรอบๆ แอ่งน้ำจนเละเทะไปหมด

ฉินสือโอวหายใจเข้าลึกๆ อยู่สองเฮือกจึงสามารถใจเย็นลงได้ หลังจากนั้นเขาจึงรวบรวมจิตสำนึกแล้วยกหีบขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่หีบทั้งสองใบจะลอยขึ้นมาอย่างเชื่องช้า

การควบคุมกระแสน้ำเพื่อขยับหีบกินแรงเป็นอย่างมาก มันเทียบกับการใช้จิตใต้สำนึกว่ายน้ำอยู่ในทะเลสาบก่อนหน้านี้ไม่ได้เลยจริงๆ

หีบลอยขึ้นมาสูงเกือบสิบเมตร ฉินสือโอวก็เหนื่อยจนทนรับไม่ได้แล้ว ดังนั้นหีบไม้เหล่านั้นจึงร่วงลงสู่ทะเลสาบอีกครั้ง

ความรู้สึกที่หีบสมบัติอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ตนเองกลับไม่มีกำลังมากพอที่จะคว้าเอาไว้ได้ทำให้ฉินสือโอวแทบคลั่ง ต่อมาเขาก็คิดวิธีหนึ่งขึ้นมาได้ เขาพักผ่อนซะก่อนสักครู่จนกำลังกายกลับคืนมา จากนั้นเขาก็ใช้จิตสำนึกก็ควบคุมทิศทางของกระแสน้ำให้พัดพาเอาหีบขึ้นไปไว้บนฝั่งจนได้

แบบนี้ถึงจะทุ่นแรงลงได้อีกมาก

ฉินสือโอวนำหีบไปซ่อนเอาไว้ที่ชายฝั่งก่อนจะสวมเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกมาจากโฮสเทล เขามองเห็นรถฟอร์ดของเจ้าของโฮสเทลจอดอยู่ที่หน้าประตูจึงพูดขึ้นมา “เพื่อน คืออย่างนี้นะ ฉันต้องไปจัดการของบางอย่างที่ฟาร์มปลาของปู่ ขอยืมรถกระบะของนายหน่อยได้ไหม? เอ่อ เดี๋ยวฉันเติมน้ำมันให้เต็มถังเลย”

เจ้าของโฮสเทลผิวขาวร่างท้วมพูดกลั้วหัวเราะขึ้นมา “ฉิน ปู่ของนายเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่ ฉันนับถือเขามาก เพื่อเขาแล้ว นายสามารถใช้รถได้ตามสบายเลย แน่นอนว่าถ้านายช่วยเติมน้ำมันก็ยิ่งดีมากเลยล่ะ”

เออร์บักเคยแนะนำฉินสือโอวไว้แล้ว พอเจ้าของโฮสเทลได้ยินว่าเขาเป็นหลานของฉินหงเต๋อ เขาจึงลดราคาค่าเช่าห้องให้ฉินสือโอวถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์

ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว เมืองเล็กๆ แห่งนี้ก็เริ่มคึกคักขึ้นมาเช่นกัน เพียงแต่ว่าที่ตั้งของทะเลสาบเฉินเป่านั้นอยู่ห่างออกไปจากเมืองถึงห้ากิโลเมตร บริเวณโดยรอบจึงอ้างว้างเงียบสงัดเป็นอย่างมาก และแบบนี้ก็เหมาะให้ฉินสือโอวลงมือเป็นอย่างดี

ฉินสือโอฉวยโอกาสตอนที่บริเวณรอบๆ ไร้ผู้คนใช้จิตสำนึกควบคุมกระแสน้ำดันหีบไม้ทั้งสองใบขึ้นมาบนฝั่ง จากนั้นเขาก็ย้ายพวกมันขึ้นไปหลังกระบะ

เมื่อวางหีบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวจึงขับรถตรงไปยังฟาร์มปลาต้าฉิน ในฟาร์มมีห้องอยู่จำนวนไม่น้อย ฉินสือโอวพบอาคารสองชั้นที่ทำมาจากไม้เมเปิล เออร์บักบอกว่านี่เป็นบ้านพักของคุณปู่เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ข้างๆ อาคารมีต้นเมเปิลอยู่สองต้น พวกมันเป็นต้นไม้ที่ปู่ของเขาลงมือปลูกเองในช่วงแรกที่ท่านมาถึงฟาร์มปลาแห่งนี้

หลังจากขึ้นมาด้านบน ฉินสือโอก็เปิดหีบใบเล็กออก โซ่เหล็กที่พันอยู่รอบๆ หีบหลุดร่วงลงไปในน้ำแล้ว ในอาคารมีค้อนอยู่อันหนึ่งเขาจึงนำมันมาทุบเสียงดัง ‘โป้งป้าง’ จนหีบใบนั้นแตกออกทันที

หลังจากเปิดหีบออก ดวงตาของฉินสือโอวเป็นประกายขึ้นมา เพราะภายในหีบมีภาพวาดที่ถูกถุงพลาสติกปิดผนึกเอาอย่างแน่นหนา!

……………………………………….