ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 58 โรคของปลา

ตอนเช้าฉินสือโอวเตรียมฮันนี่โทสต์ ไข่ดาว สลัดและไส้กรอกทอด พอเจ็ดโมงครึ่งก็เริ่มลงมือทานอาหารเช้า กระรอกน้อยสีแดงเสี่ยวหมิงกระโดดมุดเข้ามาทางหน้าต่างห้องครัวลงไปยืนที่พื้นแล้วก็คิดจะปีนขึ้นโต๊ะกินข้าวด้วยความเคยชิน

ผลก็คือพอเท้าของเสี่ยวหมิงแตะลงที่พื้น หู่จือที่แข็งแกร่งก็พุ่งเข้าใส่ทันที เป้าจือทำตามโดยกระโจนเข้าใส่ทางด้านข้าง เจ้ากระรอกตัวน้อยตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว

ฉินสือโอวตกใจ ในขณะที่คิดจะห้ามเจ้าตัวเล็กทั้งสอง การแสดงของเสี่ยวหมิงก็ทำให้เขาประหลาดใจ

เมื่อถูกล้อมด้วยสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองมากๆ ขนหางของเสี่ยวหมิงก็ฟูฟ่อง ขาทั้งสี่ของมันก็แตะลงบนพื้น มันหดตัวแล้วออกแรงราวกับระเบิดลูกเล็กๆ พุ่งเข้าใส่ด้านข้างลำตัวของเป้าจือ

เสี่ยวหมิงมีขนาดตัวแค่ฝ่ามือของผู้ใหญ่ แต่มันปีนต้นไม้ปีนกำแพงทั้งวัน ได้กินของดีๆ และยังเคยได้รับการพลังจากจิตโพไซดอนอีกด้วย เพราะฉะนั้นความสามารถในการเคลื่อนไหวนั้นยอดเยี่ยมมาก

ในทางกลับกันเป้าจือตัวน้อยที่เมื่อวานไม่สบาย ถึงแม้ว่าวันนี้มันจะหายดีแล้วแต่ร่างกายก็ยังไม่ได้มีพลังมากนัก ถูกเสี่ยวหมิงชนเข้าให้แบบนี้ก็เลยถึงกับล้มหน้าคะมำ

หลังจากที่ล้มเป้าจือได้แล้ว เสี่ยวหมิงก็มองไปที่หู่จือด้วยสายตาเหยียดหยามแล้ววิ่งไปที่ใต้โต๊ะด้วยความเร็วสูงเพื่อปีนขาโต๊ะขึ้นไปบนโต๊ะ

หู่จือกับเป้าจือมองมาที่ผมและผมก็มองมัน ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง จากนั้นพวกก็มันดูเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าฉินสือโอวเจ้านายของพวกมันอยู่ข้างๆ ด้วยความโกรธและขุ่นเคือง พวกมันจึงส่งเสียงเห่า ‘โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง’ ไปที่โต๊ะ

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” วินนี่เดินยิ้มเข้ามาในครัว

ฉินสือโอวทอดไส้กรอกไปพลางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้วินนี่ฟังไปพลาง พอวินนี่ได้ฟังก็หัวเราะออกมา

จนกระทั่งถึงเวลากินข้าว สองพี่น้องลาบราดอร์ยังไม่หายโกรธ กินไปครู่หนึ่งก็เงยหน้าขึ้นไปเห่าใส่เสี่ยวหมิงที่อยู่บนโต๊ะ เสียงเห่าที่ถูกเปล่งออกมาจากลำคอของหมาน้อยนั่นน่าฟัง

เสี่ยวหมิงไม่สนใจ กินเฮเซลนัทและบลูเบอร์รี่ที่ฉินสือโอวเตรียมไว้ให้อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว บางครั้งก็มองไปที่ลูกสุนัขด้วยสายตาเหยียดหยาม

ตีความหมายได้ว่า ไอ้อ่อน! โคตรกาก!

ทานข้าวเช้าเสร็จ ฉินสือโอวก็ออกจากบ้านเห็นว่าพื้นเริ่มแห้งบ้างแล้วจึงคิดว่าจะต้อนลูกหมูลูกไก่นับสิบตัวเข้าคอก แต่เจ้าตัวเล็กเหล่านี้ก็ยากที่จะรับมือเหลือเกิน

ตอนนั้นเองหู่จือกับเป้าจือที่เสียหน้าไปก่อนหน้านี้ก็กลับมีพลังขึ้นมา สองพี่น้องเลียปากแล้วมองตากัน หู่จือวิ่งไล่ด้านหน้าส่วนที่เป้าจือวิ่งไล่ด้านข้างเช่นเคย ทั้งสองวิ่งและเห่าไปเพื่อต้อนหมูเป็ดไก่เข้าเล้าไปทั่ว

ด้วยวิธีนี้หู่จือจะเป็นคนควบคุมทิศทางหลักให้พวกสัตว์วิ่งไปด้านหน้า ส่วนเป้าจือก็คอยประกบด้านข้าง ตัวไหนที่ถูกพวกมันทั้งสองหมายตา สัตว์ตัวนั้นจะทำได้เพียงวิ่งหนีไปเข้าคอกเท่านั้น และฉินสือโอวทำแค่เพียงเปิดประตูคอกทุกอย่างก็เรียบร้อย ไม่นานเรื่องที่หนุ่มใหญ่ทั้งสามทำไม่สำเร็จเมื่อวานก็สำเร็จได้ด้วยฝีมือของสองหนุ่มที่ถูกกระรอกน้อยรังแกเมื่อเช้า

“ว้าว! ทำดีมาก!” สุดท้ายฉินสือโอวก็เข้าไปกอดหนุ่มน้อยทั้งสองแล้วชมไม่หยุดปาก

เจ้าตัวเล็กทั้งสองเหนื่อยจนห้อยลิ้นสีชมพูของมันออกมาเพื่อหายใจ ฉินสือโอวปล่อยให้พวกมันทั้งสองพักหายใจ เขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก

วินนี่ที่ถือโทรศัพท์ถ่ายวิดีโออยู่ ในที่สุดก็เดินมาแล้วพูดอย่างภูมิใจว่า “เจ้าตัวเล็กทั้งสองไม่เลวเลยใช่ไหม? พวกมันจะกลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของคุณในอนาคตแน่"

ฉินสือโอวหอมเธอไปหนึ่งที แล้วตอบอย่างมั่นใจว่า “ใช่ เป็นผู้ช่วยที่ดีแน่ พวกมันทั้งสองตัวเก่งมากๆ!”

เหนือศีรษะมีเครื่องบินขนาดเล็กที่ใช้ในการเกษตรกำลังแผดเสียงและกระจายเมล็ดสาหร่าย ส่วนชาร์ค นีลเซ็นและซีมอนสเตอร์ก็กำลังจะขับเรือออกไปตรวจสภาพปลา

“มีอะไรให้ตรวจเหรอ?” ฉินสือโอวถาม

ซีมอนสเตอร์ตอบว่า “ตอนนี้ต้องระวังหลายอย่างเลยเช่นศัตรูพืชและโรคของปลา พวกเราเพิ่งซื้อปลาค็อดล็อตใหม่มา เมื่อพวกมันเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่เป็นครั้งแรกอาจจะเกิดโรคติดต่อได้ ถ้าเกิดโรคติดต่อพวกเราก็ต้องรีบรักษาทันที”

เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ซีมอนสเตอร์พูดค่อนข้างร้ายแรง ฉินสือโอวก็เริ่มรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาจึงขอลงเรือไปด้วย

ชาร์คกับซีมอนสเตอร์กินข้าวบนเรือมายี่สิบสามสิบปีแล้ว เรียกได้ว่าคุ้นเคยกับผืนทะเลโดยรอบของเมืองแฟร์เวลเป็นอย่างดีราวกับที่แห่งเป็นแขนขาของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น พวกเขายังคุ้นเคยกับโรคปลาทั่วๆ ไปที่พบเห็นได้บ่อยอีกด้วย หลังจากที่ยกแหอวนขึ้นมาพวกเขาทั้งสองก็เริ่มแนะนำวิธีการตรวจสภาพปลาคร่าวๆ ให้กับฉินสือโอว

“ก่อนอื่นดูให้ดูสีของตัวปลา ในสถานการณ์ปกติปลาทะเลที่มีสุขภาพดีจะมีสีสดใสไม่ซีดจาง ปลาค็อดจะเป็นเงิน ปลาแซลมอนจะเป็นสีเทาเงิน ปลาเรนโบว์เทราต์โดยปกติก็จะเป็นสีแดง นอกจากนี้ก็ยังมีปลาจาน ปลาชนิดนี้แตกต่างจากปลาชนิดอื่นแต่โดยปกติแล้วจะมีสีออกทองแดงไม่ก็น้ำตาลทอง”

“ถ้าจะตรวจหาโรคผิวหนังของปลา ก็จะดูที่ผิวหนังของปลาว่ามีจุดสีเทา จุดสีขาว เมือก แผลหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ หรือไม่”

“แล้วก็ต้องดูที่ปากของมันด้วยว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรหรือเปล่า หายใจเร็วผิดปกติหรือเปล่า ซึ่งอันหลังต้องอาศัยประสบการณ์ในการดู”

“โรคที่พบเห็นบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะสังเกตได้จากครีบของปลา เกล็ดของปลาก็สำคัญ ต้องดูว่ามีเกล็ดปลาที่ผิดปกติหรือเปล่าหรือเกล็ดชี้ออกมาผิดปกติหรือไม่”

“ต่อมาก็ต้องตรวจหลังปลา หลังปลาที่ว่าก็คือส่วนที่อยู่ใต้ครีบ ปกติแล้วมันจะอวบอิ่ม มันไม่ลีบแบน และเป็นทรงรีเมื่อมองจากด้านหน้า ถ้ามันลีบแบนเกินไปเป็นไปได้ว่าจะเป็นโรคทางเดินอาหาร ซึ่งในกรณีนี้จำเป็นต้องได้รับอาหารเสริม”

“นอกจากนี้ ในส่วนของท้องปลาก็สำคัญเช่นกัน ต้องดูว่าท้องของพวกมันมีอาการบวมแดงผิดปกติ หรือมีเลือดออกหรือไม่”

ตอนแรกชาร์คกับซีมอนสเตอร์แค่จะอธิบายให้ฟังเฉยๆ แต่กลับทำฉินสือโอวได้รับความรู้เกี่ยวกับโรคทั่วไปของปลามากมาย

“บอสมาดูนี่สิ มีปัญหาแล้วล่ะ” ชาร์คพูดขึ้นหลังจากที่ยกแหอวนขึ้นมา

ฉินสือโอวรีบเข้าไปดูแล้วพบว่าปลาจำนวนหนึ่งในแหนี้ตัวกลายเป็นสีเทาดำ ชาร์คเปิดเหงือกของพวกมันดูแต่ละตัวมีอาการบวมรุนแรงต่างกันไปและสีของเหงือกกลาเป็นสีม่วงแดง

“นี่คือโรคเหงือกเหรอ?” ฉินสือโอวนึกถึงสิ่งที่ชาร์คกับซีมอนสเตอร์อธิบายก่อนหน้านี้แล้วถามออกมา

ชาร์คพยักหน้าแล้วตอบว่า “ใช่ครับ โรคเหงือกเน่า โดยทั่วไปปัญหานี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีความหนาแน่นของปลาสูงเกินไป แต่เราเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ ปัญหานี้จึงไม่ควรเกิดขึ้น”

ซีมอนสเตอร์มองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ขอเกาะแฟร์เวลอย่างไม่พอใจก่อนจะกล่าวว่า “มีอีกสาเหตุหนึ่งคือน้ำทะเลเป็นพิษ มีมลพิษในน้ำทะเลมากเกินไปจนทำให้ปริมาณออกซิเจนของน้ำทะเลลดลง!”

มีโรงงานหลายแห่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะแฟร์เวล โรงงานเหล่านี้มีระบบของตัวเอง ไม่เกี่ยวกับตัวเมือง

อันที่จริงผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ในเมืองต่างก็รู้สึกไม่พอใจโรงงานเหล่านี้เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งปฏิกูลที่พวกเขาปล่อยออกมาสร้างมลพิษทางทะเลและทำให้ผลผลิตทางการประมงลดลง

“ให้ตายเถอะ” ฉินสือโอวเปลี่ยนเป็นความเย็นชา “กลับหัวเรือ พวกเราจะไปเจรจากับพวกเขาให้พวกเขาออกไปจากเกาะแฟร์เวลซะ!”

แต่ไหนแต่ไรมา ภาพของเกาะแฟร์เวลในสายตาของฉินสือโอวคือเมืองที่สงบ ผู้คนเป็นมิตร อากาศอบอุ่น มีภูเขามีแม่น้ำลำธาร สภาพแวดล้อมดีและมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าที่ไหนมีคนที่นั่นย่อมมีปัญหา ที่เกาะแฟร์เวลแห่งนี้ก็มีขี้หนูอยู่ในน้ำซุปเหมือนกัน

“ไม่ได้ผลหรอก” ชาร์คถอนหายใจแล้วพูดว่า “พวกนั้นรวยมากและมีคอนเนคชันที่ดีมากกับนักการเมืองเซนต์จอห์นอีกด้วย พวกเราเราเคยประท้วงแล้วและก็เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วด้วย มันไร้ประโยชน์”

ฉินสือโอวยิ้มแล้วตอบว่า “เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

ซีมอนสเตอร์กับชาร์คมองเขาอย่างน่าสงสัยแล้วยักไหล่และไม่พูดอะไร

“ตอนนี้หาทางแก้โรคพวกนี้ก่อน” ฉินสือโอวพูดขึ้นมาอีกครั้ง เขาเป็นกังวลเล็กน้อย “ถ้าเลี้ยงในทะเลสาบแค่เทยาลงไปก็คงเรียบร้อยแล้ว แต่นี่เลี้ยงในทะเลเปิดจะทำยังไงเนี่ย?”

ชาร์คพูดอย่างสบายๆ ว่า “ก็เทยาลงไปเหมือนกัน”

“ไม่ต้องห่วงนะบอส พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้คุณต้องเจอกับทางตันหรอก ฝูงปลานั้นมีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือเมื่อพบว่ามีปลาป่วยอยู่ในฝูง พวกมันจะไล่ปลาตัวนั่นออกจากฝูงไป ดังนั้นเราจึงมักจะพบปลาที่ป่วยหลายๆ ตัวอยู่ด้วยกัน เพียงเรารู้ว่าพวกมันอยู่ตรงไหนกัน เราก็ไปเทยาลงแถวนั้นแค่นี้ทุกอย่างก็เรียบร้อย” ซีมอนสเตอร์อธิบายรายละเอียดให้ฟัง

นอกจากโรคเหงือกเน่า ทุกอย่างก็ค่อนข้างดี ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร

อาหารมื้อเที่ยงก็ยังคงจัดการกันบนเรือ เรือที่ขับครั้งนี้คือเรือยอชต์ลากอวน การทำงานและการใช้ชีวิตผสมผสานกันอย่างลงตัว

เมื่อเดินเข้าไปในห้องครัวบนดาดฟ้าของเรือซีมอนสเตอร์ก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงอันดังว่า “พระเจ้าช่วย! โคตรหรูเลยโว้ย! ถ้าเป็นไปได้ผมอยากอยู่ที่นี่เลย”

“งั้นก็อยู่ที่นี่ไปเลย ถือซะว่าเป็นสวัสดิการที่ฉันให้พวกนาย” ฉินสือโอวยิ้มแล้วพูด

นีลเซ็นที่กำลังยกจานข้าวผัดมันหมูมาเสิร์ฟได้ยินดังนั้นก็พูดว่า “ให้มันฝันเอาเถอะบอส ขนาดผมยังไม่อยากอยู่เลย นับประสาอะไรกับซีมอนสเตอร์ขี้เบื่อนั่น? จะว่าไปนะบอส ข้าวผัดนี่มันสุดยอดไปเลย”

ข้าวผัดมันหมูโรยด้วยผักชี ทั้งหอมทั้งอร่อย ดื่มกับเบียร์เย็นๆ สดชื่นสุดๆ ไปเลย

นอกจากข้าวผัดหมู ฉินสือโอวยังทำข้าวห่อสาหร่ายหน้าไข่ปลาคาเวียร์มาด้วย ไข่ปลาคาเวียร์ที่จับได้ตอนออกทะเลกับชาร์คเมื่อคราวก่อน

คนสี่คนดื่มเบียร์ไปพลางกินข้าวผัดและข้าวห่อสาหร่ายไปพลาง นอกจากนี้ในห้องนั่งเล่นก็ยังมีทีวีดาวเทียมอีกด้วยดูไปหัวเราะไป ฟังคนสามคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวการเมืองในแคนาดาอย่างสนุกสนาน

พอคุยกันไปได้สักพักหนึ่ง ซีมอนสเตอร์ก็ยกแก้วเบียร์ขึ้นมาแล้วพูดว่า “ผมภูมิใจที่ตัวเองเลือกถูก บอส ถ้าไม่มีฟาร์มปลาต้าฉิน ตอนนี้ผมคงไปตกระกำลำบากอยู่ที่เซนต์จอห์นแล้ว”

...........................................