ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

บทที่ 59 วิกฤตของปลาเทราต์สายรุ้ง

หลังจากตรวจสอบสถานการณ์ปลาอย่างคร่าวๆ แล้ว เรือยอชต์ก็เริ่มเดินทางกลับบ้าน

เมื่อเทียบท่าที่ท่าเรือ ชาร์คได้เสนอว่า "บอส เราต้องซื้อเรือลำเล็กสักหน่อยแล้ว ทุกครั้งต้องขับเจ้ายักษ์นี่ออกมา ผลาญน้ำมันมากเกินไป"

มันเป็นเรื่องจริง หากไม่ได้ดูว่าขับเรือยอชต์ลากอวนนั้นสบาย แต่ทุกครั้งที่เติมน้ำมัน จะต้องจ่ายเกือบๆ 8 พันดอลลาร์แคนาดา ยิ่งเทียบกับค่าน้ำมันที่ยิ่งสูงของแคนาดาแล้ว ก็น่าขนลุกอย่างมาก

ฉินสือโอวพยักหน้า บอกว่า “ได้ พวกเราหาเวลาไปซื้อเรือเล็กกลับมาสักจำนวนหนึ่ง”

อย่างไรที่เรียกว่าเป็นเศรษฐีใหญ่? ก็นี่แหละ เศรษฐีใหญ่

ซีมอนสเตอร์โบกมือและบอกว่า “ใช้ไม่หมดหรอกครับ บอส เรื่องนี้ให้ผมจัดการเถอะ เพียงแค่ซื้อเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ เลือกประเภทของเรือให้ดี ก็สามารถประหยัดเงินได้ไม่น้อยนะครับ”

มีลูกน้อง จะทำอะไรก็สะดวก เรือหาปลาก็เหมือนกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่สามารถติดตั้งชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน กระทั่งเรือยอชต์บางลำ อาทิ เรือเปิดดาดฟ้า ดาดฟ้าเรือ และเรือตกปลาทะเล ก็สามารถประกอบเข้าด้วยกันได้เช่นเดียวกัน และราคาก็ถูกกว่าอีกด้วย

ภายในฟาร์มปลา วินนี่กำลังพาหู่จือและเป้าจือเดินเล่น เมื่อเห็นฉินสือโอว เธอก็รีบอวดสมบัติล้ำค่าว่า “คุณรู้ไหมคะ ว่าวันนี้ฉันได้รับอะไรมา?”

ฉินสือโอวยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบ “อะไรครับ?”

วินนี่ยักคิ้วให้เขา แหล้วหันไปตะโกนว่า “หู่จือ มานี่!”

หู่จือที่นั่งยองๆ กับพื้น กระดิกหางของมัน ก็รีบวิ่งมาหา ใบหูใหญ่ทั้งสองข้าง ‘กระพือขึ้นลง’ น่ารักเป็นอย่างมาก

“เป้าจือ แกก็มาด้วย” วินนี่ตะโกนทีหนึ่ง เป้าจือที่ก่อนหน้านี้นอนราบอยู่กับพื้น เมื่อได้ยินเสียงของเธอก็รีบลุกขึ้น ออกวิ่งมาทันที

ฉินสือโอวถามอย่างประหลาดใจว่า “ทำไมเหรอ?”

วินนี่โมโหมากตอบว่า “คุณไม่เห็นเหรอ? พวกมันเชื่อฟังมาก! พวกมันเหมือนเด็กฉลาดไม่มีผิด ฉันเรียกชื่อพวกมัน พวกมันก็รีบวิ่งมาหา!”

ฉินสือโอวตระหนักได้ทันที เขาคุ้นเคยกับความฉลาดแบบบอลหิมะและเสี่ยวหมิง ดังนั้นในตอนแรกเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็น

ความจริงแล้ว หากเปรียบเทียบกับสุนัขตัวน้อยแล้ว เชื่อฟังแบบนี้ก็หาได้ยาก เพียงแค่สอนวันเดียวก็สามารถจำชื่อของตัวเองได้ รู้สถานะของตนเอง สำหรับสุนัขแล้ว แม้แต่สุนัขพันธุ์แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์ที่จัดว่าฉลาดก็ยังพบได้ยาก

ฉินสือโอวกลับรู้ว่า นี่คืออิทธิฤทธิ์พลังของโพไซดอน หลังจากที่ถูกพลังของโพไซดอนปรับเปลี่ยน สิ่งมีชีวิตล้วนแต่เพิ่มความฉลาดมากขึ้น เว้นแต่เจ้าหมีโง่แสนงี่เง่าตัวนั้น

คิดถึงเจ้าหมีโง่ตัวน้อย ฉินสือโอวก็พบว่าตนเองไม่ได้ไปพบมันมาครึ่งเดือนกว่าแล้ว ถ้ากลับไปจะต้องหาเวลาไปพบกับหมีโง่ตัวนั้น

ตอนเย็นทานข้าว ฉินสือโอวพาเจ้าหู่และเจ้าเป้า สองตัวพี่น้องกลับห้อง เมื่อเขาเอนลงบนเตียง จิตสำนึกโพไซดอนก็เข้าสู่ใจกลางมหาสมุทร และไปที่แนวปะการังก่อน

ระหว่างวัน เขาได้เรียนรู้เรื่องโรคในปลา ฉินสือโอวจึงวางแผนจะค้นคว้าสักหน่อย ลองดูฝูงปลาในแนวปะการังว่ามีปัญหาหรือไม่

ปลาภายในแนวปะการังเติบโตเร็วมาก ปลาเทราต์สายรุ้ง ปลาไหล ปลาค็อด ปลาแม็คเคอเร็ลที่รีบว่ายมาอย่างต่อเนื่อง และปลาแฮร์ริ่ง เขตน่านน้ำแนวปะการัง อีกไม่กี่วันก็คุ้มค่าเท่ากับการเจริญเติบโตที่ด้านนอก 1 เดือน

บอลหิมะว่ายเข้ามาอย่างมีความสุข แต่น่าเสียดาย มองไม่เห็นฉินสือโอว มันรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย มันพ่นฟองขนาดใหญ่หลายฟองออกมาจากในปาก และว่ายกลับไป

ก่อนหน้านี้ เคยพบงูทะเล ระยะนี้มันฟื้นตัว และแอบกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ฉินสือโอวเห็นพวกมันหลบตามแนวปะการัง ยังคงเว้นระยะห่างอยู่บ้าง จึงไม่ได้เข้าไปรบกวนพวกมัน อีกทั้งระยะนี้ เขายังมีแผนที่จะใช้งานบรรดางูทะเล ดังนั้นจึงอดทนให้มันมีชีวิตอยู่ที่นี่ไปก่อน

ฉินสือโอวตรวจสอบปลาพวกนี้โดยละเอียด เมื่อมองให้ดี ก็พบปัญหาจริงๆ

ปัญหาอยู่ที่บนตัวฝูงปลาเทราต์สายรุ้ง บริเวณครีบและหางของตัวปลาพวกนี้มีบางสิ่งบางอย่างนูนออกมา โดยปกติแล้วจะมีถุงลมป่องๆ 2 อันอยู่ด้วยกัน ทุกบริเวณของถุงลมล้วนมีหางใสๆ เล็กราว 2-3 เซนติเมตรอยู่ 1 หาง ผิวหนังบริเวณโดยรอบของถุงลม ยังถูกทำให้เน่าเสียอีกด้วย

เมื่อดูอย่างชัดเจนแล้ว ฉินสือโอวก็นึกถึงโรคปลาชนิดหนึ่งได้ โรคหนอนสมอ!

หนอนสมอ เป็นปรสิต (พยาธิ) ลักษณะเป็นเส้น ที่หางของมันมีถุงไข่ 2 ถุง ในเขตกระแสน้ำเย็นและเขตกระแสน้ำร้อนล้วนแต่สามารถพบเห็นได้ อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่า ปลาในกระแสน้ำเย็นมีแนวโน้มที่จะติดปรสิตได้ง่ายกว่าเป็นกาฝากโดยพยาธินี้

สิ่งนี้แปลกประหลาดเล็กน้อย อายุขัยของหนอนสมอสั้นมาก โดยเฉพาะถ้ายิ่งอุณหภูมิน้ำต่ำก็ยิ่งมีอายุสั้น ภายใต้อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้เกือบ 15 วัน ในเขตกระแสน้ำเย็น สามารถอยู่ได้นานที่สุด 10 วัน แต่ว่า พวกมันสามารถก่อเชื้อโรคติดต่อในน้ำเย็นได้มากกว่า

หลังจากติดเชื้อ หนอนสมอจะอยู่รอดในกล้ามเนื้อด้านนอกของปลา และในกรณีที่ร้ายแรง มันจะเจาะเข้าไปในอวัยวะภายในของปลา และจุดนั้นมีโอกาสที่จะเน่า ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อรอบสอง และทำให้ปลาตายได้

ชาร์คบอกฉินสือโอว โรคนี้ของปลาไม่น่ากลัว จะไม่มีการติดเชื้อจำนวนมาก เพียงแค่มีการติดเชื้อในปลา พวกมันก็จะถูกฝูงปลาขับไล่ออกไป เช่นนี้ช่องทางการติดโรคจากหนอนสมอก็จะถูกตัดตอนไป ปลาที่ตายส่วนหนึ่งก็จะไม่มีปัญหา

แต่ว่า ฉินสือโอวก็ไม่อยากเห็นเหล่าปลาเทราต์สายรุ้งเหล่านี้ต้องตายไป ปลาเทราต์เป็นปลาที่ดี โดยเฉพาะปลาเหล่านี้เติบโตในแนวปะการัง ต่อมาก็มีปลาร้อยกว่าตัวตามมาอีก มันอ้วนท้วนสมบูรณ์ ถ้าต้องตายไปก็น่าเสียดาย

การรักษาโรคหนอนสมอ คือต้องพ่นยาออร์กาโนฟอสเฟตลงไปในน้ำ ความอดทนต่อยาของหนอนสมอมีน้อยมาก ความเข้มข้นที่ต่ำมากๆ ของออร์กาโนฟอสเฟตก็สามารถฆ่ามันตายได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้มือดึงปรสิตอย่างหนอนสมอออกมาได้ด้วย ทำให้ปลาฟื้นฟูตนเองโดยธรรมชาติ

ฉินสือโอวไม่สามารถพ่นยาออร์กาโนฟอสเฟตตามน่านน้ำแนวปะการังได้ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ต้องอาศัยแรงงานคนเท่านั้น

จิตสำนึกโพไซดอนควบคุมให้ปลาเทราต์สายรุ้งสงบลง จากนั้นฉินสือโอวก็ควบคุมจิตสำนึกโพไซดอน ย้ายพลังไปรวมไว้ใช้ที่จุดเดียว ก็ราวกับว่าเขามีมือเพิ่มขึ้นในน้ำอีกมือหนึ่ง หนีบหนอนสมอให้แน่นและดึงออกมา จากนั้นใช้พลังของโพไซดอนเข้าสู่ตัวปลา เพื่อช่วยฟื้นฟูและทำให้มันเติบโต

แต่นี่เป็นงานที่ยากลำบากมาก หนอนสมอลื่นมาก และจิตสำนึกโพไซดอนก็ไม่ใช่นิ้วมือจริงๆ เมื่อเริ่มต้นฉินสือโอวอาศัยความพยายามไปเปล่าๆ โดยไม่สามารถคีบหนอนสมอออกมาได้

จากนั้น เขาคิดวิธีหนึ่งออก ไม่ได้ริเริ่มไปจับหนอนสมออีก แต่ว่าควบคุมส่วนที่ติดเชื้อในร่างกายของปลา ใช้พลังของโพไซดอนฟื้นฟูปากแผลที่ติดเชื้อ ด้วยวิธีนี้เนื้อปลาก็สมานเข้าด้วยกัน และค่อยๆ ดันหนอนสมอให้หลุดออกมา

วิธีนี้ใช้การได้ดีมาก แต่ว่าใช้พลังงานเป็นอย่างมาก ฉินสือโอวทำไปสักพักก็รู้สึกอ่อนล้าบ้าง คล้ายกับว่าร่างกายอ่อนแอลง เริ่มมีเหงื่อออก

ไม่มีทางเลือก ฉินสือโอวได้แต่ใช้กระดาษทิชชูเช็ดเหงื่ออย่างต่อเนื่องและทำงานต่อไป เขามีหลักการอย่างหนึ่งในการทำงาน นั่นก็คือ ใช้พลังเฮือกหนึ่ง ทำให้ถึงที่สุด ทำธุระให้เสร็จให้ได้

วิธีนี้ยิ่งถอยหลังเท่าไรก็ยิ่งได้ฝึกฝีมือ ฉินสือโอวเสียแรงไปครึ่งชั่วโมง สุดท้าย หนอนสมอที่อยู่ในปลาเทราต์สายรุ้งก็ถูกกำจัดออกมา

แน่นอนว่า พลังของโพไซดอนถูกใช้ไปค่อนข้างมากทีเดียว สุดท้ายฉินสือโอวตรวจสอบดูอีกครั้งไม่มีปัญหาอะไร ก็เก็บจิตสำนึกโพไซดอนกลับ

แม้ว่าทั้งๆ ที่ใช้กระดาษทิชชูเช็ดเหงื่อไม่หยุด แต่ว่าตอนนี้เขาก็ยังเหงื่อออกจนตัวเปียก โดยเฉพาะเบื้องล่าง ก่อนหน้านี้ไม่ทันได้ดูให้ดี จึงเหงื่อออกเยอะมาก

เขาถอดเสื้อนอน แขนเปลือยเปล่าเช็ดเหงื่อด้วยกระดาษทิชชูที่ส่วนตรงนั้น สุดท้ายก็มีเสียง ‘แอ๊ด’ เบาๆ ประตูเปิดออกแล้ว ฉินสือโอวเงยหน้าอย่างตกตะลึง เห็นตาคู่โตที่ตกตะลึงกว่า

วินนี่อึ้งไปเสียแล้ว

“ฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจ เอ่อ ฉันนึกว่าคุณนอนไปแล้ว ก็เลยแอบเปิดประตูเอาเจ้าสองตัวนั่นเข้าห้อง…” วินนี่อธิบายอย่างร้อนรน “ไม่รบกวนคุณแล้วนะ จัดการต่อไปเถอะค่ะ แต่ว่าก็ระวังควบคุมด้วยนะ……”

พูดจบก็ปิดประตูอย่างไม่ใส่ใจ รีบวิ่งจากไป

ฉินสือโอวก็ตกตะลึงเช่นกัน ตนเองจัดการอะไรอยู่? ควบคุมอะไร? เขาแค่เพียงเหงื่อออกทั้งตัวก็เลยเช็ดเหงื่อเท่านั้น แต่ว่าเมื่อก้มลงมองที่มือและกลุ่มก้อนกระดาษทิชชูบนพื้นนั้น ต่อให้เขาอยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออก

ซวยจริงๆ ถูกเข้าใจผิดเรื่องอะไรไม่ว่า แต่ดันถูกเข้าใจผิดว่าช่วยตัวเองอยู่!

การปรากฏตัวของวินนี่ทำให้หู่จือและเป้าจือซึ่งหลับก่อนหน้านี้ดีอกดีใจ เจ้าสองตัวกระโดดไปมาชนกับฉินสือโอวและเห่าประสานเสียงกัน อย่างมีความสุข

เมื่อได้ยินเสียงของสุนัขตัวน้อย วินนี่กัดริมฝีปาก พลางรีบวิ่งกลับไปเปิดประตู ข่มความเขินอายกวักมือเรียกสุนัขตัวน้อย “รีบออกมา อย่าไปรบกวนเจ้านายของพวกแก”

สุนัขตัวน้อยทั้งสองวิ่งหน้าตาตื่นอย่างดีใจ ฉินสือโอวมองเงาด้านหลังของวินนี่ก็ร้องออกมา “เฮ้ย คุณเข้าใจผมผิดแล้ว ฟังผมอธิบาย ผมแค่เช็ดเหงื่อ……”

วันถัดมาหลังจากตื่นนอน ฉินสือโอวประหลาดใจ เมื่อพบว่าวินนี่เตรียมไข่เจียว และยังทำโจ๊กหมูไข่เยี่ยวม้า ให้เขาด้วย หลังจากเห็นเขา วินนี่ยิ้มอย่างเคอะเขิน กะพริบตาและบอกว่า “ให้คุณบำรุงร่างกายสักหน่อย ตอนเช้าดื่มนมทานไข่ไก่สักหน่อย อย่าดื่มน้ำผลไม้เลย”

ฉินสือโอวเกือบจะน้ำตาไหล คุณดีกับผมจริงๆ แต่ว่าเมื่อคืนผมแค่เช็ดเหงื่อจริงๆ!

สุดท้ายแล้วเขาตระหนักว่า ตอนกลางคืนควรต้องจัดกิจกรรมสักหน่อย ให้วินนี่อยู่ว่างแบบนี้ เป็นเรื่องไม่สมควร เพราะสาวน้อยมักจะคิดวกวนเรื่องไร้สาระ

อากาศไม่เลว ฉินสือโอวนำเมล็ดพันธุ์กุ้ยช่าย เมล็ดพริก เมล็ดมะเขือ เมล็ดถั่วฝักยาว และเมล็ดแตงกวาจากบ้านเกิดออกมา จากนั้นขับรถเข้าเมืองซื้อกล่องเก็บอุณหภูมิจำนวนหนึ่งวางไว้ในโกดังสินค้า ใส่ดินใส่เมล็ดพันธุ์ลงไป

การปลูกผัก ไม่ใช่เพียงโปรยเมล็ดลงไปในดินก็ใช้ได้ หากว่าทำเช่นนี้ เมื่อต้นกล้าออกมาได้หนาวตาย หรือว่าขาดน้ำแห้งตาย ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องปลูกพืชรอบสอง ก็คือการเพาะต้นกล้าในกล่องเก็บอุณหภูมิก่อน ถึงเวลาค่อยย้ายต้นกล้าไปยังสวนผัก

ก่อนหน้านี้ ฉินสือโอวไม่พอใจที่จะทำงานนี้เป็นที่สุด ก้มเอวฝังต้นกล้าเมล็ดผักเหนื่อยมากๆ และยังต้องรอต้นกล้าผักอย่างใจจดใจจ่อ พูดตรงๆ ก็คือทรมาน

เวลานี้ งานพวกนี้ก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว เพราะว่าเออร์บักรู้สึกสนุกกว่าเขา เขาแค่พูดคำหนึ่งว่าปลูกผัก เออร์บักก็ขับบีเอ็มดับเบิ้ลยูมาหาเขาแล้ว

เป็นครั้งแรกที่วินนี่ได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ เธอรู้สึกแปลกใจมาก ฉินสือโอวเป็นอาจารย์ ชี้แนะคนทั้งสองว่าต้องปลูกอย่างไร ตนเองก็ได้มีเวลาว่างพอดี สิ่งที่เขาต้องทำก็เพียงรดน้ำ ขณะที่รดน้ำก็ถ่ายเทพลังโพไซดอนเข้าไปในเมล็ดพันธุ์ผักด้วยเพื่อช่วยเร่งการเติบโตของพวกมัน

…………………………………………………………