ตอนที่ 16 ดอกบัวขาว (1)
เมื่อจวินอู๋เสียกลับถึงห้อง เจ้าแมวดำก็ปรากฏตัวออกมาแล้วกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของนาง ใช้หัวถูแก้มนางอย่างออดอ้อน
“แท้จริงแล้วปู่ทุกคนควรเป็นเช่นนี้หรือ” จวินอู๋เสียนั่งตรงหน้ากระจกทองแดง มองใบหน้าแปลกตาที่คุ้นเคยในกระจก
ว่ากันตามความสัมพันธ์ของคนปกติทั่วไป มันก็ควรจะเป็นแบบนี้แหละ! แมวดำแกว่งหางที่มีขนหนานุ่มของมันไปมา ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกที่จวินอู๋เสียมีต่อคำว่า 'ปู่' ได้ดีไปกว่ามันอีกแล้ว
“จริงหรือ” ดวงตาของจวินอู๋เสียหรี่ลง นางยกมือขึ้นลูบอกด้านซ้ายของตัวเองเบาๆ คำพูดของจวินเสี่ยนทำให้หน้าอกของนางร้อนฉ่า นางไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย
มีทั้งความเฝื่อนฝาด แต่ก็อบอุ่นเล็กน้อย
นางชอบมันเหลือเกิน
ครั้งหนึ่งจวินอู๋เย่าเคยถามนางว่าโกรธไหมที่ต้องเผชิญหน้ากับการดูถูกของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยและไป๋อวิ๋นเซียน
คำตอบของนางคือเหตุใดต้องโกรธ
เพราะสำหรับจวินอู๋เสียแล้ว การจากไปของคนผู้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับนางเลย กระทั่งจวนหลินอ๋องเองก็ไม่ได้ผูกพันกับนางมากนัก
ดังนั้นนางไม่มีทางโกรธ
อย่างไรก็ตาม ยามนี้กลับมีบางสิ่งที่แตกต่างออกไป
คำพูดของจวินเสี่ยนยังคงดังก้องอยู่ในหูของจวินอู๋เสียไม่หยุด ความรู้สึกผูกพันที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชาติที่แล้วทำให้จวินอู๋เสียทำตัวไม่ถูก
“เขาคือท่านปู่ของข้า” ใบหน้าน้อยในกระจกทองแดงมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น ซึ่งรอยยิ้มนั้นมันก็อบอุ่นมากพอทำให้น้ำแข็งหลอมละลายได้
สวรรค์ได้เติมเต็มและชดเชยส่วนที่ขาดหายไปในชาติที่แล้วของนาง ทำให้นางได้รับความรักจากครอบครัวอีกครั้ง ดังนั้นนางจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำลายมันเป็นอันขาด
“ข้าจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องกับจวนหลินอ๋อง ตัวข้า หรือว่ากับท่านปู่แน่”
ในอดีตนางแทบไม่เคยแยแสสนใจต่อสิ่งใด แต่บัดนี้จวินอู๋เสียตัดสินใจแล้วว่านางจะใส่ใจเรื่องของจวินเสี่ยนและจวินชิงให้มาก
บัดนี้จวนหลินอ๋องกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ อำนาจภายนอกเองก็ไม่รู้ว่าจะสลายหายไปวันใด ถือว่าเสี่ยงอย่างมาก หากจวินอู๋เสียคิดอยากปกป้องจวนหลินอ๋องจริง นางก็จำเป็นต้องเด็ดขาดให้มากกว่านี้ ทว่าทุกสิ่งไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น
“ภูติดอกบัวของข้า...คือสิ่งใดกันแน่” จวินอู๋เสียพูดพลางไล้นิ้วเรียวขาวราวกับหยกของนาง แสงสีอ่อนสะท้อนออกมาจากนิ้วนางข้างขวา และดอกบัวสีขาวก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง
เหมียว...ลองดูดีหรือไม่ เจ้าแมวดำแกว่งหางรัวด้วยความตื่นเต้น มันเอียงคอมองดอกบัวตรงหน้าตาไม่กะพริบ
จวินอู๋เสียรับเจ้าดอกบัวสีขาวมาวางไว้บนฝ่ามือ ปลายนิ้วไล่ไปตามกลีบบัว กลิ่นหอมอ่อนๆ ก็กระจายออกมาจากดอกบัวคละคลุ้งไปทั่วห้อง
“หอมจริง” ไม่รู้ว่าอุปาทานไปเองหรือเปล่า จวินอู๋เสียรู้สึกว่ากลิ่นหอมนั้นทำให้เลือดลมในกายของนางไหลเวียนดีขึ้น ครั้งก่อนด้วยเพราะรีบร้อนเกินไปนางจึงไม่ได้ตั้งใจศึกษาเจ้าดอกบัวนี้ให้ดี
กลิ่นของดอกบัวนี้พิเศษมาก ราวกับสามารถส่งผลต่อเลือดของมนุษย์ได้ หากเป็นเช่นนี้จริง ดอกบัวนี้อาจมีประโยชน์ด้านอื่นอีก
จวินอู๋เสียเอื้อมมือจับไปที่กลีบดอกบัว หวังจะเด็ดมันลงมาเพื่อศึกษา
แต่ขณะที่ขยับกลีบเบาๆ ยังไม่ทันได้เด็ด ดอกบัวในมือนางก็เริ่มสั่นไหว มีเสียงร้องดัง โอ๊ย! ออกมา จากนั้นดอกบัวสีขาวก็เริ่มปล่อยควันโขมง!
“เจ็บ เจ็บ เจ็บ” เสียงเล็กๆ ราวกับเสียงของเด็กดังขึ้น กลุ่มควันกระจายออกแล้วไปจับตัวกันเป็นก้อนอยู่ตรงหน้าเตียง
เมื่อควันค่อยๆ สลายไป เด็กผู้ชายตัวเล็กก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วนั่งกอดแขนตัวเองร้องไห้อยู่บนพื้น เขามองมาที่จวินอู๋เสียอย่างกล่าวโทษ
เหมียว!!! การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเด็กน้อย ทำให้เจ้าแมวดำตกใจจนต้องดีดตัวขึ้นไปบนไหล่ของจวินอู๋เสีย พองขนขู่ฟ่อ
“...” จวินอู๋เสียมองดูเด็กน้อยที่นั่งแหมะอยู่บนพื้นและพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ เด็กชายตัวจ้ำม่ำผิวสีน้ำนมในชุดเอี๊ยมตัวเล็กสีขาวมีลายดอกบัวสีเงินปักอยู่ด้านหน้า รูปเสมือนจริงนั่น มองอย่างไรก็เหมือนกับภูติดอกบัวของนางไม่ผิดเพี้ยน!