ตอนที่ 201 หยกสงบวิญญาณ (3)
ภายใต้กรงเล็บของเจ้าแมวดำ ดอกบัวขาวน้อยกอดเข่าของเขาไว้แน่นและเข้าไปซุกตัวอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องพร้อมกับส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาเป็นระยะๆ
จวินอู๋เสียเข้าไปอุ้มเจ้าดอกบัวขาวน้อยที่ร้องไห้อยู่ขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนของนาง พูดปลอบใจเขาไปอย่างอดทนว่า
“เจ้าแน่ใจหรือว่านั่นคือหยกสงบวิญญาณ” จวินอู๋เสียเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องของหยกวิญญาณ...หรือหยกสงบวิญญาณตามที่เจ้าดอกบัวขาวน้อยเรียก หากหยกวิญญาณครึ่งหนึ่งนั้นเป็นหยกสงบวิญญาณของโลกภูติวิญญาณจริงๆ ก็สามารถอธิบายเรื่องที่มันมีพลังในการดูดซับจิตวิญญาณได้
ความสามารถของหยกสงบวิญญาณคือการปกป้องจิตวิญญาณและรักษาจิตวิญญาณ และมันมีผลต่อจิตวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์เท่านั้น ดังนั้นถึงแม้ว่าคนธรรมดาจะสัมผัสโดนก็จะไม่มีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น
แต่นางไม่เหมือนกัน จิตวิญญาณของนางและเจ้าแมวดำได้ผสานกันมานานแล้ว และตอนนี้พวกเขายังได้เดินทางข้ามมาจากอีกโลกหนึ่งแล้วครอบครองร่างกายของจวินอู๋เสีย จิตวิญญาณของนางและร่างกายนี้ไม่น่าจะผสานรวมกันได้อย่างสมบูรณ์ ฉะนั้นสำหรับหยกสงบวิญญาณแล้วจิตวิญญาณของนางจึงถือว่าไม่สมบูรณ์ ดังนั้นหยกสงบวิญญาณจึงต้องการซึมซับจิตวิญญาณของนางเข้าไปในหยกเพื่อทำการรักษา
“ข้า...ข้าไม่รู้ ข้ารู้แค่ว่ามันเหมือนกับรูปวาดที่ข้าเคยเห็นและมันก็มีพลังจิตวิญญาณของโลกภูติวิญญาณอยู่ด้วย” ภายใต้การปลอบโยนของจวินอู๋เสีย ในที่สุดสีหน้าของเจ้าดอกบัวขาวน้อยก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาแอบมองเจ้าแมวดำและพบว่าแมวดำตัวน้อยยังคงจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงรีบก้มหน้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตานั้นลงและซุกใบหน้าของเขาเข้าไปในอ้อมแขนของจวินอู๋เสีย
เจ้าแมวตัวร้าย
ดอกบัวขาวน้อยมั่นใจในรูปร่างและพลังของมันมาก ทั้งสองอย่างนี้บวกกับความรู้สึกของจวินอู๋เสียที่มีต่อหยกวิญญาณแล้ว สามารถยืนยันได้ว่ามันเป็นหยกสงบวิญญาณของจริง!
แต่เพราะเหตุใดสิ่งของของโลกภูติวิญญาณจึงมาปรากฏในรัฐชี
แท้จริงแล้วโลกภูติวิญญาณคือที่ใด สำนักชิงอวิ๋นต้องการหยกวิญญาณเพราะพวกเขารู้ว่าหยกวิญญาณคือหยกสงบวิญญาณอย่างนั้นหรือ
หยกวิญญาณหนึ่งชิ้นทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากมาย และจวินอู๋เสียก็ไม่สามารถสืบหาเบาะแสใดๆ ในตอนนี้ได้
หากหยกวิญญาณคือหยกสงบวิญญาณของจริง แล้วหยกสงบวิญญาณมีพลังในการรักษาจิตวิญญาณล่ะก็ มีแนวโน้มอย่างมากที่หยกสงบวิญญาณจะเป็นสื่อกลางในการฟื้นคืนชีพให้จวินกู้!
สิ่งเดียวที่นางมั่นใจในตอนนี้คือนางจะไม่มีวันมอบหยกวิญญาณให้คนของสำนักชิงอวิ๋นเป็นอันขาด รวมถึงหยกอีกซีกที่อยู่ในมือของมั่วเฉี่ยนยวนด้วย นางจะหาวิธีเอามันมาให้ได้!
เมื่อทำการตัดสินใจแล้ว จวินอู๋เสียก็เตรียมพร้อมเข้าวังหลวงทันที
“ดึกมากแล้ว เจ้าจะไปไหนอีก” จวินอู๋เย่าเอนหลังพิงประตูด้วยท่าทางสบาย มองจวินอู๋เสียที่อยู่ในห้อง แต่สายตาของเขากลับค่อยๆ กวาดไปทางโลงศพที่เปิดอยู่ด้านข้าง
ความสนใจของเด็กน้อยของเขานั้นช่างพิเศษจริงๆ ถึงขั้นเอาโลงศพมาตั้งไว้ในห้องด้วย
จวินอู๋เสียหยุดชะงักไปเมื่อเห็นจวินอู๋เย่า แต่ครั้งนี้ใบหน้าของนางไม่ได้แสดงออกอย่างเย็นชาเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นใบหน้าที่เรียบเฉยแทน
“ไปกับข้า” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นและมองไปที่จวินอู๋เย่า
ครั้งนี้จวินอู๋เย่าหยุดชะงักไปจริงๆ
เขา...เพิ่งได้ยินอะไรไปนะ
ไปกับนางหรือ
นี่…เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเด็กน้อยของเขาเพิ่งจะแสดงท่าทีอ่อนโยนต่อเขา แต่ตอนนี้นางกลับจะหนีตามเขาไปแล้วหรือ
ความสุขเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน รอยยิ้มบนใบหน้าของจวินอู๋เย่าแทบชวนให้ผู้คนละลาย
จวินอู๋เย่าเดินไปหยุดอยู่ด้านข้างของจวินอู๋เสียด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน ความอ่อนโยนในดวงตาของเขาทำให้ผู้ที่พบเห็นหัวใจเกือบต้องหยุดเต้นไปด้วยความหลงใหล
“ทุกที่บนโลกนี้ เจ้าอยากไปที่ใด”
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขแล้วกล่าวอย่างมั่นใจว่า “วังหลวง”
“…”
“เจ้ามาพอดี ด้วยพลังของเจ้าแล้ว ไม่น่ามีปัญหาถ้าเจ้าจะพาข้าหลีกเลี่ยงคนของสำนักชิงอวิ๋นแล้วพาข้าเข้าไปในวังหลวง" จวินอู๋เสียกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าจวินอู๋เย่ามาจากที่ใด แต่นางก็มั่นใจในพลังของเขา