ตอนที่ 200 หยกสงบวิญญาณ (2)
“เจ้าพูดว่าหยกสงบวิญญาณอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ใช่แค่หยกวิญญาณหรอกเหรอ” จวินอู๋เสียมองไปที่เจ้าดอกบัวขาวน้อยเพราะชื่อที่เขาพูดออกมานั้นมากกว่าที่นางรู้อยู่หนึ่งคำ
ดอกบัวขาวน้อยกะพริบตาปริบๆ มันพูดออกมาอย่างลังเลว่า “หยกวิญญาณคืออะไรกัน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ข้าเคยเห็นภาพหยกสงบวิญญาณในโลกภูติวิญญาณ หน้าตาเป็นแบบนี้ไม่ผิดแน่ และ...บนหยกนี้มีพลังจิตวิญญาณของโลกภูติวิญญาณของพวกข้าอยู่ด้วย"
"พลังจิตวิญญาณคืออะไร" จวินอู๋เสียยิ่งฟังยิ่งสับสน เจ้าดอกบัวขาวน้อยพูดคำมากมายที่มีเพียงภูติวิญญาณเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้
ดอกบัวขาวน้อยมองดวงตาที่สงสัยของจวินอู๋เสียแล้วลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงจะกระโดดลงไปที่พื้น เขามองจวินอู๋เสียแล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ดูเหมือนว่าเจ้านายจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภูติวิญญาณเลย แต่ไม่เป็นไร ข้าจะค่อยๆ บอกท่าน"
"พลังจิตวิญญาณคือพลังที่ภูติวิญญาณอย่างพวกข้าบ่มเพาะ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพลังแห่งจิตภูติวิญญาณ แท้จริงแล้วภูติวิญญาณอย่างพวกข้าก็คือจิตวิญญาณ ฉะนั้นพลังก็เป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณ หยกสงบวิญญาณเป็นหนึ่งในเจ็ดอาวุธวิเศษในโลกภูติวิญญาณ ที่มีพลังในการปกป้องจิตวิญญาณและรักษาจิตวิญญาณ ไม่ว่าจิตวิญญาณจะคลั่งแค่ไหน แต่ภายใต้พลังของหยกสงบวิญญาณ มันจะค่อยๆ สงบลงและฟื้นฟูจิตใจเดิมขึ้นมาใหม่ แต่ว่า...ข้าไม่เคยเห็นหยกสงบวิญญาณที่แท้จริงมาก่อน ข้าเคยได้ยินพวกเขากล่าวว่าอาวุธวิเศษทั้งเจ็ดหายไปในช่วงสงครามใหญ่ และตอนนี้ในโลกภูติวิญญาณก็เหลือเพียงภาพของอาวุธวิเศษทั้งเจ็ดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เจ้าแห่งโลกภูติวิญญาณจึงได้สั่งให้ภูติวิญญาณมากมายออกค้นหาเบาะแสของอาวุธวิเศษทั้งเจ็ดชิ้น”
ในขณะที่พูด เจ้าดอกบัวขาวน้อยก็แสดงรอยยิ้มโง่ๆ ออกมา
“ข้าไม่คิดว่าข้าจะโชคดีถึงเพียงนี้ที่ได้พบหยกสงบวิญญาณของจริง ถ้าข้าสามารถนำหยกสงบวิญญาณชิ้นนี้กลับสู่โลกภูติวิญญาณได้ล่ะก็ ข้าจะต้องได้รับรางวัลมากมายอย่างแน่นอน” เจ้าดอกบัวขาวน้อยยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข โดยไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าสีหน้าของจวินอู๋เสียดำคล้ำลงเรื่อยๆ
ภูติวิญญาณโง่ๆ ตนหนึ่งพูดต่อหน้าเจ้านายของมันว่าเขาจะนำสิ่งของสำคัญของเจ้านายมันกลับไปแลกของรางวัล
นอกจากคำว่ารนหาที่ตายแล้ว ก็ไม่มีคำอื่นใดที่สามารถยกขึ้นมาเปรียบเปรยได้อีก
“เจ้านาย ข้าสามารถฆ่าเจ้าเด็กนี่ได้หรือไม่” แมวดำตัวน้อยหรี่ตาลง มันมองไปที่ดอกบัวขาวตัวอวบอ้วนที่กำลังยืนเพ้อฝันอยู่
เจ้าดอกบัวขาวน้อยตกใจมาก มันรีบเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าทันทีและมองเจ้าแมวดำตัวน้อยด้วยความหวาดกลัว
“เจ้า...อย่าเข้ามานะ...”
“เจ้าสามารถโง่กว่านี้ได้หรือไม่ ไร้ประโยชน์ไม่พอยังคิดจะฉกชิงของสำคัญของเจ้านายไปอีก เจ้ามันช่างเนรคุณและไร้ประโยชน์จริงๆ เก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์ ให้ข้ากินเจ้าเสียจะดีกว่า” แมวดำตัวน้อยที่มีความสุขกับการกลืนกินภูติวิญญาณตนอื่นค่อยๆ เลียเขี้ยวอันแหลมคมของมัน
ความกล้าของเจ้าดอกไม้โง่ๆ นี่นานวันยิ่งมากขึ้นทุกที
เจ้าดอกบัวขาวน้อยตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และมองไปที่เจ้าแมวดำตัวน้อย วินาทีต่อมาน้ำตาเม็ดโตก็หยดแหมะลงมาจากดวงตากลมโตของเขา เขาล้มลงตรงที่เท้าของจวินอู๋เสียพร้อมกับร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น แขนอวบอ้วนและมือเล็กๆ จับชายกระโปรงของจวินอู๋เสียไว้แน่น กล่าวพร้อมน้ำตาว่า “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะขอรับ ข้าไม่ได้ต้องการจะเอาของของเจ้านาย ข้าแค่บอกว่าถ้าเจ้านายเสียชีวิตในอนาคต ข้าจึงจะนำหยกสงบวิญญาณกลับไปก็เท่านั้นเอง"
เขาเป็นดอกไม้ที่ซื่อสัตย์ เขาจะขโมยของของเจ้านายได้อย่างไรกัน
สีหน้าของจวินอู๋เสียดำคล้ำมากขึ้นไปอีก
เจ้าดอกไม้โง่นี่นำเรื่องถือโอกาสหยิบของติดมือกลับไปด้วยขึ้นมาสาปแช่งให้นางตายในเร็ววัน...
แมวดำตัวน้อยลับกรงเล็บที่แหลมคมของมันและพุ่งเข้าใส่เจ้าดอกไม้ที่โง่เขลานั้น
ทันใดนั้น กลิ่นหอมของดอกบัวก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง และสิ่งที่ตามมาพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เพิ่มขึ้นก็คือเสียงกรีดร้องของเจ้าดอกบัวขาวน้อยที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
จวินอู๋เสียกุมขมับ มองดูสองคู่อริเก่าตัวเล็กที่ต่อสู้กัน
นางสามารถหาคำตอบที่นางต้องการได้หรือไม่