ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 215 ทะลวงระดับ (3)

เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ซีดขาวของจวินอู๋เสีย จวินอู๋เย่าก็อดไม่ได้เอื้อมมือออกไปคว้านางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาเกยคางไว้บนศีรษะของเด็กสาว ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างกอบกุมมือเล็กๆ ไว้อย่างทะนุถนอม ฉับพลันนั้นเองลูกแก้วผลึกกลมๆ ก็กลิ้งตกมาในฝ่ามือของนาง

“ข้าได้เตรียมภูติวิญญาณไว้ให้เจ้านานแล้ว มันอยู่ข้างในนี้” จวินอู๋เย่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

จวินอู๋เสียมองลูกแก้วผลึกสีใสที่เพิ่งได้มาจากจวินอู๋เย่าที่กลิ้งอยู่ในฝ่ามือของตนเอง มันส่องประกายดูงดงามมาก แต่เมื่อมองดูดีๆ จะสังเกตเห็นว่าภายในนั้นไม่ธรรมดาเลย มันมีแสงหลากหลายสายกำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างในนั้นอย่างต่อเนื่อง และแสงแต่ละสายนั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานชีวิต

“ที่อยู่ในนี้คือภูติวิญญาณหรือ” ลูกแก้วนี้ทั้งเย็นและแข็ง มันเหมือนกับผลึกแก้วสีใสทั่วไปที่ดูสวยงาม แต่ก็ให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปเล็กน้อย ซึ่งนางก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันทำมาจากวัสดุอะไร

“สิ่งนี้มันเรียกว่าปราการกักภูติ ไว้ใช้สำหรับกักขังภูติวิญญาณที่ผู้ทำพันธสัญญาเพิ่งตายลงโดยเฉพาะ หลังจากที่ผู้ถือครองภูติวิญญาณตกตายไป ภายในหนึ่งชั่วยามภูติวิญญาณจะยังไม่ถูกส่งกลับไปที่โลกภูติวิญญาณทันที แต่จะยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์ก่อน ซึ่งพวกเราก็อาศัยจังหวะนี้แหละในการจับกุมพวกมัน ทำการกักขังพวกมันไว้ในปราการกักภูติ พวกมันก็จะหนีไปไหนไม่ได้อีก” ความคิดของจวินอู๋เย่าไม่ได้อยู่ที่ปราการกักภูติ จริงๆ แล้วนับตั้งแต่ที่เขาได้เห็นเจ้าดอกบัวขาวน้อย เขาก็เริ่มเตรียมสิ่งนี้ไว้ให้นางตั้งนานแล้ว เขาเชื่อว่าเด็กน้อยของเขาจะต้องได้ใช้มันในสักวันหนึ่ง

“ภูติวิญญาณชนิดใดกันที่อยู่ข้างในนี้” สายตาของจวินอู๋เสียจับจ้องไปที่ปราการกักภูติตาไม่กะพริบ ลำแสงเหล่านั้นเป็นกลุ่มของร่างภูติวิญญาณที่ถูกกักขังอยู่ด้านใน แต่มองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของมันได้ไม่ชัดสักเท่าไหร่

“อสรพิษทะยาน” จวินอู๋เย่าหรี่ตาลงเล็กน้อย อสรพิษบรรพกาลที่ถือกำเนิดมาพร้อมกับสวรรค์และโลก

“ถึงแม้ว่าด้วยระดับพลังของเจ้าในตอนนี้การจะกลืนกินอสรพิษทะยานทั้งหมดนั้นค่อนข้างยากลำบากอยู่บ้าง แต่ภูติวิญญาณตนแรกที่ใช้ดูดซับนั้นสำคัญต่อเจ้ามาก แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะช่วยเจ้าทะลวงระดับเอง แต่จงจำไว้อย่างหนึ่ง ไม่ว่าระหว่างการดูดซับพลังนั้นเจ้าจะเจ็บปวดมากเพียงใด ก็ต้องอดทนอย่ายอมแพ้กลางคันเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นไม่เพียงแต่เจ้าจะไม่สามารถทะลวงขั้นได้ แต่ยังจะถูกจิตของอสรพิษทะยานย้อนกลับมากลืนกินเจ้าอีกด้วย” การปล่อยให้คนที่มีพลังวิญญาณระดับสีแดงดูดกลืนวงแหวนภูติวิญญาณอันทรงพลังเฉกเช่นอสรพิษทะยานนั้นเสี่ยงมาก แต่จวินอู๋เย่าไม่มีทางเลือกที่สอง

สำหรับคนที่มีภูติวิญญาณประเภทพฤกษา ภูติวิญญาณที่ใช้ในการทะลวงระดับครั้งแรกจะถูกผสานรวมเข้ากับพลังจิตวิญญาณของผู้ที่ดูดซับ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจวินอู๋เย่าถึงควานหาวงแหวนภูติวิญญาณที่สมบูรณ์ที่สุดที่ขอบเขตระดับพลังของจวินอู๋เสียพอจะสามารถรองรับได้มาให้นาง เพราะนี่ก็เป็นภูติวิญญาณที่ดีที่สุดสำหรับนางแล้ว จวินอู๋เย่าไม่อยากให้จวินอู๋เสียเสียโอกาสนี้ไป

อสรพิษทะยานนั้นอาจจะทรงพลังมาก แต่ความสามารถของมันจะทำให้การบ่มเพาะพลังในอนาคตของจวินอู๋เสียแข็งแกร่งยิ่งขึ้น!

เสี่ยงสักหน่อยจะเป็นไรไป!

ตราบเท่าที่ยังมีเขาอยู่ตรงนี้ เขาจะยอมปล่อยให้เด็กน้อยของเขาเกิดอันตรายหรือไง!

“เจ้า...เชื่อใจข้าหรือไม่” จวินอู๋เย่าถาม

จวินอู๋เสียพยักหน้าหงึกหงัก แต่เมื่อพบว่าตัวเองมองไม่เห็นจวินอู๋เย่าที่ยืนอยู่ข้างหลังจึงยอมแพ้

“เชื่อ!”

รอยยิ้มบนใบหน้าของจวินอู๋เย่าขยายกว้างขึ้นทันที เขาดีใจมาก เด็กน้อยของเขายามลดกำแพงตั้งแง่ลงนั้นช่างน่ารักเสียจนเขาแทบอดใจไม่ไหว อยากจะหลอมรวมนางให้เป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของเขา

"เปิดปราการกักภูติออกสิ"

จวินอู๋เสียทำตามที่จวินอู๋เย่าบอกอย่างว่าง่าย มือทั้งสองข้างของนางวางลงบนปราการกักภูติทันทีที่เขากล่าวจบ โดยให้มือข้างหนึ่งวางอยู่ด้านบนและมืออีกข้างรองอยู่ด้านล่าง ก่อนจะบิดมันไปในทิศทางตรงกันข้าม และในเวลานั้นเองที่ลูกแก้วกลมเกลี้ยงไร้ตำหนิที่หมุนวนอยู่ในมือนางก็มีรอยร้าวเล็กๆ เกิดขึ้น เจ้าอสรพิษทะยานที่กำลังดิ้นรนอยู่ในปราการกักภูติ ในที่สุดก็ค้นพบวิธีที่จะหนีออกจากที่กักขังนี้แล้ว มันจึงส่งพลังวิญญาณออกไปอย่างต่อเนื่องผ่านรูที่เป็นเส้นทางเล็กๆ พลังวิญญาณจึงหลั่งไหลออกมาข้างนอกไม่หยุด

“ดูดซับมันเลย ในตอนนี้แหละ! ทำเหมือนกับที่เจ้าทำมันทุกวันด้วยพลังของบัวหิมะซังอวี้ ค่อยๆ ชักนำพลังวิญญาณของอสรพิษทะยานเข้าไปในร่างกายของเจ้า ใช่แล้ว...อย่ารีบ...แบบนั้น...ปล่อยให้พลังวิญญาณของมันเข้าไปหลอมรวมกับเส้นเลือดและเส้นลมปราณของเจ้า จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับแต่งมันไปทีละนิด อย่าได้ใจร้อนไป" วินาทีที่ปลดปล่อยเจ้าอสรพิษทะยานออกจากปราการกักภูติ จวินอู๋เย่าก็แผ่พลังออกมาทันทีเพื่อกีดกันเจ้าภูติที่อยู่ด้านในปราการกักภูติไม่ให้มันหลบหนีไปไหนได้

จวินอู๋เสียหลับตาลง และเริ่มชักนำพลังวิญญาณของเจ้าอสรพิษทะยานเข้าไปในร่างกาย

ทันทีที่นางเริ่มลงมือดูดซับพลัง จวินอู๋เสียก็รู้สึกได้ว่าภูติวิญญาณที่ดุร้ายนั้นกำลังวิ่งชนไปทั่วร่างกายของนางอย่างบ้าคลั่ง!