ตอนที่ 191 ข้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น (1)
ทันทีที่จวินอู๋เสียกลับมาถึงจวนหลินอ๋อง นางก็เชิญจวินเสี่ยนและจวินชิงมาที่ห้องหนังสือและพูดเรื่องหยกวิญญาณออกมา
สีหน้าของจวินเสี่ยนเปลี่ยนไปในทันที “หยกวิญญาณได้ถูกฝังไปพร้อมกับร่างของพ่อเจ้าแล้ว”
จวินอู๋เสียไม่พูดอะไร นางเพียงแค่มองสีหน้าของจวินเสี่ยนและจวินชิง นางรู้อยู่แล้วว่าสองพ่อลูกสกุลจวินไม่ต้องการรบกวนความสงบของบิดานาง
นางรู้จากปากของจวินเสี่ยนว่า ผู้คนในโลกนี้จะใส่หยกที่สวยงามไว้ในปากของผู้ตายเมื่อพวกเขาถูกฝังซึ่งหมายถึงการปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายและหวังว่าวิญญาณของผู้ตายจะหลุดพ้น ในชาติก่อนจวินอู๋เสียก็เคยได้ยินเรื่องการใส่หยกไว้ในปากของผู้ตายแล้วฝังลงดินว่ามีประเพณีแบบนี้ในสมัยโบราณจริงๆ
หยกวิญญาณได้รับพระราชทานจากองค์ปฐมฮ่องเต้ของรัฐชี และยังเป็นสัญลักษณ์เกียรติยศของรัฐชี เมื่อตอนที่จวินกู้เสียชีวิต จวินเสี่ยนเสียใจเป็นอย่างมาก เกียรติยศในอดีตจึงกลายเป็นเสี้ยนหนามในใจของเขา เขาจึงได้นำหยกวิญญาณชิ้นนั้นฝังไปพร้อมกับจวินกู้ด้วย
ใครจะคิดว่าหลังจากผ่านไปหลายปี สำนักชิงอวิ๋นจะถ่อมาถึงรัฐชีเพื่อค้นหาหยกวิญญาณชิ้นนั้น
“ข้าจะจัดการเรื่องนี้กับท่านอาเล็กของเจ้าเอง” จวินเสี่ยนถอนหายใจและได้ตัดสินใจในใจแล้ว
คนก็ตายจากไปแล้ว แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ยังคงอยู่ในโลกที่วุ่นวายนี้ พลังของสำนักชิงอวิ๋นไม่ใช่สิ่งที่จวนหลินอ๋องสามารถต่อกรด้วยได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่อนุญาต แต่เรื่องที่หยกวิญญาณได้ถูกฝังไปพร้อมกับจวินกู้นั้นคนส่วนใหญ่ในรัฐชีล้วนรับรู้ มันไม่ใช่เรื่องยากหากสำนักชิงอวิ๋นจะสืบเรื่องนี้
ดูจากความเผด็จการของสำนักชิงอวิ๋นแล้ว แม้ว่าสกุลจวินจะไม่ยอมขุดหลุมฝังศพของจวินกู้พวกเขาก็คงไม่สนใจ
แทนที่จะรอให้คนของสำนักชิงอวิ๋นลงมือบังคับ ให้พวกเขาทำเองจะดีกว่า
จวินอู๋เสียเงียบ นางลอบกำมือแน่นด้วยความขุ่นเคืองใจเมื่อมองเห็นความสิ้นหวังและความเศร้าบนใบหน้าของจวินเสี่ยนและจวินชิง
ความแตกต่างของความแข็งแกร่งนั้นโหดร้ายมาก
ผู้อ่อนแอทำได้เพียงแค่รอการเข่นฆ่าจากผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น แม้ว่าจะไม่ยินยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
สามารถบังคับให้อดีตฮ่องเต้สละราชสมบัติได้แล้วอย่างไร โลกนั้นกว้างใหญ่มีขุมกำลังอีกมากมายที่สามารถบังคับสกุลจวินได้
ตอนนี้สำนักชิงอวิ๋นก็สามารถบังคับให้สกุลจวินขุดหลุมฝังศพของจวินกู้ด้วยมือของพวกเขาเอง ถ้าสำนักชิงอวิ๋นรู้เรื่องที่จวินอู๋เสียทำกับไป๋อวิ๋นเซียน เกรงว่าพวกเขาจะต้องทำลายสกุลจวินทั้งหมดในทันที
แม้ว่าจะมีกองทัพรุ่ยหลินหนึ่งแสนนายอารักขาคุ้มครองอยู่ แต่คนยี่สิบกว่าคนของสำนักชิงอวิ๋นนั้นมีผู้ที่แข็งแกร่งอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างพลังของเจียงเฉินชิง ถ้าเขาต้องการที่จะฆ่าสกุลจวินทั้งสามคน ถึงแม้จะมีกองทัพรุ่ยหลินหนึ่งแสนนายก็ไม่อาจขวางเขาได้
จวินอู๋เสียกัดฟันอย่างเงียบๆ นางไม่ต้องการให้สกุลจวินใช้ชีวิตอ่อนแอเยี่ยงนี้
“เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถิด” จวินเสี่ยนถอนหายใจ แม้ว่าในใจของเขาจะไม่ยินยอมเพียงใด แต่เขาก็ไม่สามารถนำชีวิตของหลานสาวและลูกชายคนเล็กของเขาไปเสี่ยงได้
คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก
นี่คือสถานการณ์ที่สกุลจวินกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันกระมัง
สำนักชิงอวิ๋นรู้แล้วว่าอีกครึ่งหนึ่งของหยกวิญญาณอยู่ในมือของสกุลจวิน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมมอบมันออกไป แต่คนของสำนักชิงอวิ๋นก็คงถ่อมาเอามันเองถึงที่อยู่ดี
จวินอู๋เสียลุกขึ้นและจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
นางเดินออกมาจากห้องหนังสือและมองดูท้องฟ้าที่มืดมิด พระจันทร์กระจ่างลอยอยู่บนท้องฟ้าและดวงดาวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้า แต่ทิวทัศน์นี้กลับไม่สามารถทำให้นางดื่มด่ำไปกับมันได้เลย
“คิดอะไรอยู่หรือ” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขดังขึ้นมา
จวินอู๋เสียไม่ได้หันกลับไปมองก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร
“จวินอู๋เย่า” นางมองดูดาวบนท้องฟ้าแล้วเอ่ยถามออกไป
“หือ”
“เจ้าแข็งแกร่งหรือไม่”
จวินอู๋เย่าที่สาวเท้าเข้ามาทางด้านหลังหลังจวินอู๋เสียหยุดชะงักกึกทันที เขาไม่ได้รีบเดินเข้าไปหาเด็กน้อยของเขาเหมือนในยามปกติ แต่หรี่ตาลงมองแผ่นหลังที่โดดเดี่ยวนั้นแล้วครุ่นคิดชั่วครู่
"อืม น่าจะกระมัง"