รุ่งเช้าในฉางอัน เมืองหลวงยังคงสงบ แต่ใต้วังหลวงมีบางสิ่งกำลังขยับตัว
เว่ยหลงยืนอยู่ในห้องบรรทมของตน กำลังจ้องแผนที่โบราณที่ขุดได้จากหอคัมภีร์ก่อนหลายปีก่อน…
จุดที่เขาไปพบกับ “วิหารเงา” ถูกวงไว้ด้วยหมึกแดงโดยผู้ใดก็ไม่ทราบ
แต่แปลก—ตรงจุดนั้นไม่มีอยู่ในแผนที่เมืองที่ทางราชสำนักบันทึก
“เมื่อคืนข้าแน่ใจว่ามีคนอยู่ในวิหารนั้น…กลิ่นธูปโบราณ กลิ่นเลือด มันชัดเจน”
เขาพึมพำกับตัวเอง พลางหยิบผ้าผืนเล็กที่พบจากพื้นวิหาร
ผ้าไหมจากสยาม... สีฟ้าทะเลเฉพาะตัวที่ไม่ใช่ของใครอื่นนอกจาก ‘ดวงแก้ว’
---
ด้านดวงแก้ว—นางนั่งเงียบอยู่ในหอพักส่วนตัว
พลังจากตำราในวิหารยังสั่นไหวในร่างของนาง
นางฝันถึงอดีตในวัยเด็กอีกครั้ง
ในฝัน...มีผู้หญิงชราในชุดสไบกล่าวกับนางว่า
> “วันหนึ่ง เจ้าจะต้องเลือกระหว่าง ‘หัวใจ’ กับ ‘เงา’”
ในฝันนั้น—หญิงชราผู้นั้นเอื้อมมือมาสัมผัสหน้าผากดวงแก้ว
ทันทีที่ปลายนิ้วแตะลง—แสงจันทร์ก็ระเบิดออก
ดวงแก้วสะดุ้งตื่นขึ้น หอบหายใจ นัยน์ตาสั่นไหว
นางเริ่มตระหนักแล้วว่า พลังเงาในตัวนาง...ไม่ได้ตื่นขึ้นมาโดยบังเอิญ
---
เมื่อดวงอาทิตย์คล้อยต่ำ เว่ยหลงไปพบนางในสวนหลวง
เขาเอาผ้าไหมยื่นให้
“เมื่อคืนเจ้าหายไปไหน”
เสียงเขาราบเรียบ แต่นัยน์ตามีคำถามมากมาย
ดวงแก้วรับผ้าไว้ เงียบไปอึดใจ
“ที่ใดมีเงา ที่นั่นย่อมมีแสง”
“และบางครั้ง ข้า...ก็แค่อยากรู้ว่า ข้าเป็นแสง หรือเป็นเงา”
เว่ยหลงสบตานาง
ในชั่วขณะนั้น เขารู้—นางกำลังปิดบังบางอย่าง
แต่เขากลับไม่โกรธ
ในทางกลับกัน…เขาอยากปกป้องนางจากความลับเหล่านั้นเสียเอง