ลมเช้าในเมืองเริ่มเย็นขึ้น เคนท์ คาร์ก ยืนพิงรั้วเหล็กของดาดฟ้าสถานีตำรวจ สูบบุหรี่แท่งใหม่ ริมฝีปากบ่นพึมพำกับตัวเองเรื่องรายงานที่ยังไม่ได้เขียน
เขาเงยหน้ามองฟ้าขุ่น เหมือนจะมีฝนตกอีกครั้ง
รีส ทีน่า เดินตรงเข้ามาพร้อมแฟ้มในมือ หน้าตาเคร่งเครียดกว่าปกติ
“ศพที่สองมาแล้ว เคนท์”
เขาหยุดสูบทันที เหลือบมองเธอ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
ศพที่สองถูกพบในห้องแสดงภาพเก่าในแกลเลอรีร้าง ริมแม่น้ำเขตชานเมือง ประตูหน้าไม่ได้ล็อก แต่ประตูห้องจัดแสดงถูกปิดไว้แน่น ราวกับจงใจให้เปิดเข้ามาช้า
ภายในห้อง แสงจากหน้าต่างสูงส่องลงมาตรงกลางพอดี เหยื่อชายวัยประมาณสามสิบ ถูกจับนั่งกับเก้าอี้ไม้แบบคลาสสิก มือสองข้างถูกมัดแน่นไว้ด้านหลัง ศีรษะเอียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้ทีมสืบสวนต้องกลั้นลมหายใจคือ “ฉากหลัง”
บนผนังด้านหลังศพ มีผืนผ้าใบขนาดใหญ่กางติดกับกำแพง
บนผืนผ้านั้น เต็มไปด้วยรอยสาดของเลือด วาดเป็นลวดลายเรขาคณิตที่ซับซ้อน
ตรงกลางผืน มีคำว่า
“สีจากชีวิต”
เขียนด้วยพู่กัน และแน่นอน…
เซ็นว่า “X”
“วิกลจริตอย่างมีสไตล์…” เคนท์พึมพำขณะเดินวนดูฉาก
รีสเดินมาหยุดข้างเขา “นายว่ามันสื่ออะไร?”
“มันไม่สื่ออะไรทั้งนั้น” เขาตอบทันที “มันแค่โชว์...ให้เราเห็น ว่ามันทำได้แค่ไหน”
เขาหยิบกล้องถ่ายภาพในที่เกิดเหตุขึ้นมาส่องดูระยะใกล้ ก่อนจะหรี่ตา
“แต่ภาพนี้... มันสมดุลเกินไป รายละเอียดมันเป๊ะจนไม่เหมือนฆาตกรทำ แต่มันเหมือน...ศิลปินสร้าง”
ผลชันสูตรพบว่าเหยื่อถูกวางยาก่อน จากนั้นถูกกรีดแขนให้เลือดค่อย ๆ ไหลออกมา ราวกับให้นองพอประมาณเพื่อใช้ “เขียน” บนผ้าใบที่อยู่ข้างหลัง โดยเหยื่อยังมีสติในระหว่างถูกวาด
รีสถึงกับนิ่วหน้า “เขาปล่อยให้เหยื่อค่อยๆ ตาย... แค่จะเก็บเลือดไปวาด?”
“เขาไม่ฆ่าเพื่อฆ่า” เคนท์พูด “เขาฆ่าเพื่อสร้างงาน”
ช่วงค่ำ
เคนท์กลับถึงอพาร์ตเมนต์ชั้น 3 ห้องรกตามสไตล์คนไม่มีเวลาจัดการชีวิต เขาถอดเสื้อสูบโยนลงพื้น แล้วหยิบเบียร์กระป๋องจากตู้เย็น เดินตรงเข้าห้องน้ำ
เขาเปิดน้ำล้างหน้า ก่อนจะเงยหน้ามองตัวเองในกระจก
ใต้ตาเขาคล้ำกว่าทุกวัน สีหน้าเหมือนคนไม่ได้นอนมาหลายคืน
ภาพฉากฆาตกรรมกลับมาในหัว — เหมือนภาพสั้นๆ จากความเครียด
ผ้าใบเปื้อนเลือด เสียงหยดน้ำ และกลิ่นสี...
เขาหลับตาลงชั่วครู่ แล้วถอนหายใจยาว
“คิดไปตอนนี้ก็ไม่ได้อะไร...” เคนท์พึมพำกับตัวเอง
เขาล้างหน้าซ้ำอีกรอบ ก่อนจะปิดน้ำ
ยืนจ้องตัวเองในกระจกอยู่พักหนึ่ง แล้วหัวเราะเบา ๆ แบบเหนื่อยล้า
“นอนให้พอดีกว่า...”
เขาเดินออกจากห้องน้ำไป โดยไม่รู้ว่าเสียงหยดน้ำในท่อ...ยังคงดังก้องในหู
เช้าวันต่อมา ข่าวคดีที่สองเริ่มแพร่ไปในโซเชียล
#XTheArtist
#นิทรรศน์แห่งความตาย
เริ่มกลายเป็นกระแส
แม้ผู้คนจะหวาดกลัว... แต่ก็มีไม่น้อยที่รู้สึก “ตื่นเต้น”
ศิลปะจากศพ กลายเป็นสิ่งที่ทั้งหวาดหวั่นและชวนจ้องมอง
ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจ นายตำรวจอาวุโสโวยเสียงดังใส่ทีมสืบสวน
“จะให้ศิลปินบ้านั่นฆ่าคนโชว์อีกกี่ศพกัน ถึงจะจับได้?”
เคนท์นั่งนิ่ง ไม่พูดอะไร เขาหยิบปากกาหมุนเล่นในมือ ขณะจ้องภาพผืนผ้าใบในแฟ้ม
“เขากำลังเล่นกับจังหวะ...เหมือนวาดทีละชั้น...” เคนท์พึมพำเบา ๆ
รีสหันมามอง “ว่ายังไงนะ?”
เคนท์เงยหน้าขึ้น “เรากำลังตามหาฆาตกรผิดประเภทอยู่”
“หมายถึง?”
“เขาไม่ใช่แค่ฆาตกร... เขาเป็นศิลปินมืออาชีพ — ที่มองเหยื่อเป็นเพียง ‘สี’ บนผืนผ้าใบ”
ท้ายตอน:
ในห้องมืดแห่งหนึ่ง
ผ้าใบใหม่ถูกวางรอไว้แล้ว
และมีเงาคนกำลังผสม “สี” จากถุงเลือดใหม่...เงานั้นหัวเราะเบา ๆ