WebNovellosse15.79%

บทที่ 5

บทที่ 5 การเลือกหินพนัน

สถานที่ป่าไม้ บาเรียร้องลั่นป่าไม่มีผู้คนมาช่วยสักคน ชายชุดดำ2 วิ่งเข้ามาหาบาเรียพร้อมกับเหวี่ยงหมัดซัดไปที่ใบหน้าบาเรีย ฟิววว!! ตุบ! ตุบ! ตุบ! เสียงร้องค่อยค่อยหายไปมาเเทนที่ด้วยเสียงหมัด “ ชิ หยุดสักทีนะ เป็นเด็กเเล้วขยันร้องเหลือเกิน „ “ ไปได้ „ ชายชุดดำ1เริ่มเดินนำหน้าไปโดยทิ้งให้ชายชุดดำ2เเบกบาเรียเดินตาม โดยทิ้งสิ่งของไว้ ทัั้งสองต้องการเเค่บาเรีย บาเรียสลบไปด้วยเลือดที่อาบหน้าบาดเเผลรอยหมัดเต็มไปหมด เลือดสีเเดงลากไปเป็นระยะทาง ทางสถานที่เเห่งนึงเวลาผ่านไปจนเกือบจะถึงตอนกลางคืน อ้ากเฟเดินมาถึงที่หมาย มีกระท่อมหลังนึงตั้งอยู่ใจกลางป่า [ ถึงสักทีนะ ไกลใช้ได้ นี้เหรอ เจ้าพวกคนธรรมดาอยากสร้างอำนาจนะ เห็นเเล้วน่าเศร้า กล้าหยามจอมยุทธ์เเบบนี้มันต้องสั่งสอน ]

อ้ากเฟวิ่งตรงไปในกระท่อมพร้อมกัับเหวี่ยงเท้าขวาถีบไปทางประตู ฟิววว!! ตูมมม!! ประตูไม้ปลิวกระกระจาย ด้วยการเปิดตัวของอ้ากเฟทำให้บุคคลที่อยู่ภายในต่างมองออกมา อย่างสงสััย “ ว่าไงที่นี้เซมเเพนหรือเปล่า กล้ามากเลยนะถึงได้ทำเเบบนี้นะ ? „ อ้ากเฟดึงดาบออกมามองดูชายชุดดำจำนวนมากกำลังประชุมกันอยู่

ชายชุดดำ4ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเปิดเผยหน้าตาออกมาให้เห็น เป็นผู้ชายผมสั้นสีดำมีเเผลที่หน้าเป็นเหมือนรอยดาบ อายุยี่สิบเเปด ชื่อ ซาโบรุ จอมยุทธ์ขั้น3 “ ประตูมีไม่เปิดนะ ว่าไงต้องการอะไรละ? „ อ้ากเฟมองเเห็นชายชุดดำสิบคนยืนรอเตรียมต่อสู้ [ ซวยเเล้วละ นึกว่าเป็นพวกไม่ใช่ผู้ฝึกตนเเต่ออร่าที่เจ้าที่ยืนอยู่ตรงกลางท่าทางเอาเรื่องสะด้วยสิ พลาดจนได้นะอ้ากเฟเจ้าโง่ดััน รีบเร่งบุกมานะ!? ] อ้ากเฟเเสดงสีหน้าของความเศร้าใจที่ความใจร้อนทำให้เจอสถานการณ์เช่นนี้ อ้ากเฟวิ่งหนีอย่่างรวดเร็ว ฟิวววววว!! [ ชิต้องต่อสู้ข้างนอกเท่านั้นไม่งั้นไม่ไหวเเน่นอน จำนวนเยอะเกินไป ถ้าสู้ที่โล่งจะเข้าทางเจ้าพวกนี้ ]

ชายชุดดำอีกเก้าคนหันมามองซาโบรุ “ ตามมันไปสะ ถ้าฆ่ามันไม่ได้ไม่ต้องกลับมา „ ชายชุดดำวิ่งออกจากระท่อมไม้ด้วยความเร็ว เวลาผ่านไปซาโบรุนั่งลงพร้อมกับมองไปทางประตูที่ไม่สามารถปิดได้ มีชายชุดดำ1เเละชายชุดดำ2เดินเข้ามาพร้อมกัน เเบกตัวของ บาเรียเข้ามาด้วย ซาโบรุมองดูบาเรียที่หน้าอาบเลือด ชายชุดดำ1ถามอย่างสงสัยว่าใครมันทำลายประตู “ มีคนบุกมาทีี่นี้เหรอครับ? „ “ ใช่เจ้าโง่ตนนึง „ ชายชุดดำ1เดินมานั่งใกล้ซาโบรุ “ เด็กคนนี้โตไปต้องสวยเเน่นอนครับ เเถมเเม่ของเด็กคนนี้ขายให้อีก ผมคิดที่จะขายเด็กคนนี้ครับ „ “ ตามใจเจ้าเถอะ „ ทั้งสองกำลังจะนั่งลงบนเก้าอี้วางบาเรียไว้ตรงมุมห้อง

ทางสถานที่เเห่งนึงนอกกระท่อมไม้ เซราฟเดินมาถึงพร้อมกับ จางมิ๋งที่ทำท่าจะหนี [ เจ้าเด็กเวรไม่บอกเเต่เเรกละ ว่าไกลขนาดนี้นะ? ] เซราฟนั่งเเอบโดยมองไปที่กระท่อมไม้ที่มีเหมือนกับการพังประตู [ ท่าทางไม่ใช่โชคของข้าหรือเปล่านะ จะบอกว่ามีการต่อสู้กันเหรอ อันนี้มีความเป็นไปได้้ เอายังไงดีตัวข้าจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้จริงเหรอ ไม่สินี้คงจะเป็นเหตุผลที่ต้องพาจางมิ๋งคนนี้มาด้วยเเน่่นอน ] เซราฟลุกขึ้นยืนเตรียมตรงไปที่กระท่อมไม้เก่า มือขวาจางมิ๋งยื่นมือมาเเตะไหล่เซราฟเพื่อห้ามไม่ให้เดินไปมากกว่านี้ “ เจ้าหนูอย่าดีกว่านั่นนไม่ช่กระท่อมปกติ อย่าไปยุ่งเดดขาด „

เซราฟมองดูจางมิ๋งทำสีหน้านิ่ง “ ถ้างั้นผมไปคนเดียวก็ได้ครับ คุณจางมิ๋่งมาเเค่นี้ก็พอครับ เเละช่วยทิ้งของชิ้นนั้นด้วยครับ ถ้าไม่อยากช่วยก็เชิญไปโดยทิ้งสิ่งของชิ้นนี้ไว้ครับ„ เซราฟปัดมือจางมิ๋งออก จางมิ๋งมองดูเด็กน้อยอย่างสงสัย [ ไอ้เด็กเวรคนเขาอุส่าจะช่วยเพื่อป้องกันอันตรายเเต่ดันอยากเข้าไป สมองเเกเพี้ยนไปเเล้วเหรอ ] “ เจ้าหนูที่นั่นมันอันตรายมากนะ ศัตรูนั้นน่่ากลัวอย่างที่คิด „ “ พี่ชายลืมไปหรือเปล่าครับ ผมนั้นถนัดวางเเผน เเถมเก่งกว่าที่พี่ชายเห็นด้วยอีกนะครับ „ จางมิ๋งสำรวจเซราฟอย่างสงสัย [ เจ้านี้มันชอบโม้เหรอ จะบอกว่าอายุเเค่นี้เนี่ยนะ จะบอกว่าฉลาด? ]

เซราฟเดินไปโดยไม่สนใจจางมิ๋งที่พยายามห้าม เสื้อผ้าสีทองโบกสบัดไปมาเส้นผมสวยหรูเขย่าไปเล็กน้อยพร้อมกับ หนังสือที่เขียนคำว่าโชคถือไปด้วย จางมิ๋งเดินตามเซราฟอย่างช่วยไม่ได้ [ ชิ เป็นเด็กที่่กวนโอ้ยใช้ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะของวิเศษชิ้นนี้้ข้าไม่ยอมตามเจ้ามาหรอกนะ ขอบคุณข้าด้วยละ ]เซราฟเดินมาถึงตรงหน้ากระท่อมพร้อมกับเดินเข้าไปตรงตรง ไม่ใช่เพราะกล้าหาญเเต่เส้นเเห่งโชคลอยออกมาทางประตู ซาโบรุมองเด็กน้อยชุดสีทองที่เดินเข้ามาตรงตรง [ เด็กงั้นเหรอ? ] จางมิ๋งเดินเข้ามาพร้อมกับมองสำรวจโดยรอบ เห็นบาเรียนอนสลบด้วยเเผลเลือดออกตรงใบหน้า

เซราฟมองดูบาเรียพร้อมกับสำรวจชายชุดดำทั้งสาม เส้นสีทองจากตัวเซราฟเปลี่ยนมาเป็นสีขาวพุ่งชนกันกับชายชุดดำที่นั่งตรงกลาง เป็นซาโบรุ ชายชุดดำทั้งสองลุกขึ้นยืน จางมิ๋งถึงกับอยากเอามือตบหน้าตัวเอง [ ชิท่าทางไม่ใช่เรื่องดีเเล้วละ เเบบนี้ชีวิิตของเด็กเซราฟคนนี้จบลงเเน่นอน ต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่สิต้องหนีต่างหาก เพราะเเบบนี้ไงเจ้าหนูถึงได้บอกอย่าเข้าไปยุ่งเรื่องชาวบ้านให้มาก ? ] จางมิ๋งตั้งท่ารอต่อสูุ้ เซราฟมองดูซาโบรุ [ เส้นสีขาวเเปลว่าสามารถเปลี่ยนสีไปมาได้สินะ ชายตรงกลางที่นั่งอยู่นั้น ท่าทางจะเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ หรือโชคกำลังบอกว่าให้ช่วยชีวิตบาเรีย เเล้วสักวันบาเรียจะมาช่วยฉันงั้นเหรอ? ]

“ ฝากจัดการชายชุดดำสองคนด้วยครับ „ จางมิ๋งมองดูเด็กที่ต้องสงสัยเเน่นอนว่าเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้หรือเปล่า “ นี้เจ้าหนูเเน่ใจนะ? „ “ ใช้ครับ ถ้าเป็นไปได้ช่วยวิ่งไปสู้้ทางนั้นด้วยครับ „ เซราฟชี้ไปทางซาโบรุ เพื่อบอกทิศทางที่จางมิ๋งควรลากคู่ต่อสู้ไป จางมิ๋งนิ่งเหมือนรูปปั้น “ ตามใจเจ้าละกันเป็นยังไงข้าไม่สนใจเจ้าเเล้วละ „ จางมิ๋งใช้เวทมนที่สอง [ ดาบลมเขียว ] จางมิ๋งดึงดาบออกมาเสริมพลังเวทมนเข้าไปในใบดาบพร้อมกับพลังของเวทมนสีเขียวที่ปกคลุมใบดาบจนใหญ่่ขึ้นสองเท่า จางมิ๋งวิ่งเข้าไปหาทั้งสามคน ตูมมม!! ฟิววววว!! จางมิ๋งวิ่งมายืนอยู่ตรงหน้าทั้งสามคน

“ เอาละการต่อสู้ที่นานนานทีจะต้องสู้ ช่วยออมมือให้ด้วยละกัน „ ใบดาบสีเขียวยืดออกไปใหญ่เท่าตัวจางมิ๋งพร้อมกับเหวี่ยงใบดาบฟันไปเป็นเเนวนอน ตูมมมม! ซาโบรุกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า ฟิวว! ชายชุดดำ1กับชายชุดดำ2ยกดาบของตัวเองขึ้นมารับดาเมจเวทมน ฟิวว! ฟิวว! ตูมมม! ปิววววว! บึมม! ทั้งสองปลิวออกไปจากกระท่อมจนเกิดรูขนาดใหญ่ จางมิ๋งวิ่งออกไปหาทั้งสองคน ฟิววววว! ซาโบรุหลบดาบลมได้ลอยลงมาเยียบพื้น ฟิววว! ตุบ! ซาโบรุมองดูเซราฟเเละเดินไปยิบเก้าอี้มานั่งลงเหมือนเดิม ซาโบรุไม่มีท่าทีสนใจเซราฟ การที่ตัวเองเป็นผู้ฝึกตนระดับ3 มารังเเกเด็กนั้นมันน่าอาย เซราฟยืนนิ่งไม่คิดจะขยับไปไหน [ ศัตรูท่าทางร้ายกาจใช่เล่นต้องระวังเป็นพิเศษ ]