WebNovellosse63.16%

บทที่ 14

บทที่ 14 ปากกาทองคำ

ในร้านวาดภาพ โซระพูดขึ้นมา “ เอาสิ เอาสิ จะมอบโอกาสทดสอบเป็นลูกศิษละกัน ถ้างั้้นสาวน้อยตรงนั้นใช่ไหมที่ต้องการมาเป็นลูกศิษนะ เจ้ามีนามว่าอะไรละ? „ “ บาเรียค่ะ „ “ ดีมาก ถ้างั้นมาช่วยเเสดงฝีมือการวาดภาพของเจ้า เเสดงให้ข้าดูหน่อยความสามารถจะดีเเค่ไหนกัน „ บาเรียมองดูเซราฟว่าเอายังไง เซราฟยิบพู่กันสีดำที่ตัวเองเคยซื้อให้บาเรีย ยิบพู่กันสีดำออกมา “ นี้เป็นพู่กันของเจ้าเชิญใช้ได้ ข้าไปเจอมานะ ส่วนรูปภาพของเจ้าข้าลืมยิบมาเพราะงั้น นี้คือของเจ้าพรุ้งนี้ข้าจะไปนำสมุดภาพของเจ้ามาเเน่นอน „ บาเรียพยักหน้ารับ “ ขอบคุณมาก เเล้วข้าต้องใช้สิ่งใดในการวาดภาพละค่ะ? „ บาเรียมองดูของวิเศษประเภทกระดาษวาดภาพ

โซระมองดูกระดาษตรงหน้าตัวเอง “ ฮืม.. นั่นมันของวิเศษระดับสามเลยเหรอ ได้มาจากไหนละ? „ “ ท่านหญิงรู้ด้วยเหรอครับ? „ เซราฟมองดูกระดาษสีขาวเหมือนของธรรมดา บาเรียตอบคำถามให้โซระ “ นี้เป็นของที่ได้รับมาจากโรงเรียนเซเรนเทนชินค่ะ เป็นของที่มาจากโรงเรียนเซเรนเทนชินที่มอบให้้ผู้เข้าสมัครโรงเรียนเเเห่งนี้ค่ะ „ “ อืม อืม อย่างนี้นิเอง สาวน้อยเจ้าดูท่าทางจะเป็นกลุ่มเดียวกับพวกเรา ไม่สิเส้นทางเดียวกันมากกว่า น่าสนใจดีนิถ้างั้นเชิญเเสดงฝีมือให้เห็นหน่อย „ บาเรียเริ่มวางกระดาษสีขาวลงไปวางที่พื้น พร้อมกับรับพู่กันสีดำมาจากเซราฟ พร้อมกับการลงมือวาดภาพที่ตัวเองอยากจะวาด

ด้วยความที่สีเป็นสีดำทำให้ได้ภาพวาดเป็นสีดำ บาเรียวาดรูปภาพของร้านขายรูปภาพ ใบหน้าสาวน้อยเเสดงถึงความมุ่งมั่น สีดำลงลนกระดาษสีขาว ด้วยความขาวที่เหมือนกับความว่างเปล่า สีดำเเค่จุดเดียวสีดำทำลายสีขาวออกไปโดยสีดำนั้นมาเเทนที่ โซระมองดูการวาดลวดลายรูปภภาพท่่ีบาเรียนั้นวาด [ วาดร้านของข้างั้นเหรอ ไม่ได้บอกให้เริ่มวาดอะไรเเต่เลือกทที่จะเริ่มวาดเองเหรอ ไม่สินักวาดภาพก็ต้องมีจินตนาการ ตราบใดที่มีภาพในหัวเส้นทางของนักวาดภาพจะเปิิดออกมา ฝีมือการจับพู่กันมือใหม่ การวางภาพไว้ในพื้นก็สามารถบอกได้ว่าเป็นมือใหม่ เเต่เอาเถอะเด็กอายุเเค่นี้จะเป็นมืออาชีพถือว่าเเปลกมาก ] โซระหันมามองดูเซราฟ “ เเล้วเจ้าตรงนี้นะ ไม่ได้มาขอเป็นลูกศิษด้วยเหรอ? „

เซราฟส่ายหน้า “ ท่านสามารถรับเด็กคนนี้เป็นลูกศิษได้ไหมครับ เด็กคนนี้ไม่มีที่พึ่งพา ตอนนี้เรียกว่าตัวคนเดียวก็ว่าได้ครับ ผมนั้นยังเด็กมากไม่สามารถช่วยอะไรได้มากครับ „ “ ขอกันเเบบนี้เลยเหรอ ต้องดูก่อนต่างหากละว่าเหมาะที่จะมาเป็นผู้สืบทอดของข้าหรือเปล่านะ ชีวิตมันก็เเบบนี้ „ “ ขอขอบคุณมากครับ „ เซราฟก้มหัวขอบคุณ โซระมองดูภาพวาดที่บาเรียวาดอยู่พอนึกขึ้นได้ว่าบาเรียนั้นวาดภาพด้วยหมึกสีดำ จึงกำลังจะไปยิบสีต่างต่างมา เเต่กลับไปเห็นพู่กันสีดำท่ีมีลวดลายเเปลก โซระรีบไปดึงพู่กันสีดำออกมาจากมือบาเรีย ชึบ! บาเรียมองดูมือตัวเองที่เคยมีพู่กันสีดำพร้อมกับงงมาก “ พู่กันหายไปไหน? „

เซราฟมองดูโซระอย่างตกใจ [ เร็วมากผู้หญิงคนนี้อย่าบอกนะว่าเป็นจอมยุทธ์นะ? ] โซระตรวจดูพู่กันสีดำ “ เจ้าหนูได้พู่กันชิ้นนี้มาจากที่ไหน? „ โซระต้องไปที่บาเรีย เซราฟพูดเเทนก่อนที่จะมีการเข้าใจผิด “ ผมเองครับที่ซื้อมาจากร้านขายของเก่า เพียงเเต่ตอนนั้นเห็นบาเรียทำหน้าสนใจของชิ้นนั้นมากจึงเลือกที่จะซื้อมาให้ครับ สิ่งนั้นมันคืออะไรละครับ? „ โซระมองดูบาเรีย [ เด็กคนนี้สนใจ น่าสนใจดีนิ เอาสิ เอาสิ ไหนไหนก็เเก่ขนาดนี้เเล้วถึงเวลาวางมือเเล้วก็ได้ การได้สิ่งนี้มาเป็นเรื่องบังเอิญ อาจจะเป็นเเบบนั้น เเต่น่าสนใจบางทีเด็กคนนี้อาจจะไปถึงระดับนั้นก็ได้ ชมรมผู้สร้างวาดภาพจะต้องสั่นสะเทือนด้วยการมาถึงของสิ่งนี้ ] โซระยื่นพู่กันสีดำให้บาเรีย

“ สิ่งนี้เป็นสิิ่งของธรรมดานะ นึกว่าเหมือนกับสิ่งนั้นสะอีก เเต่เอาเถอะสาวน้อยลาเด็กคนนี้ให้เสร็จละะกัน ถ้าเจ้าสนใจเส้นทางนักวาดภาพจงตามฉันไปท่องโลกกว้างนะ ข้ากำลังเก็บของเพราะงั้น ถ้าอยากจะตามข้าไป เราจะออกเดินทางในตอนกลางคืน ถ้าไม่ต้องการตามข้ามาก็ไม่เป็นไร „ โซระยอมรับบาเรียเเละบอกกำหนดการที่จะออกเดินทางในคืนนี้ บาเรียเเสดงสีหน้าที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงมองไปททางเซราฟ “ เซราฟ? „ “ ขอเเสดงความยินดีด้วยนะ ท่านหญิงผู้นี้เป็นคนดีเเน่นอน การเดินทางอาจจะลำบากเเต่เจ้าอยากจะเป็นนักวาดภาพหรือเปล่าละ ไม่ใช่มาถามข้าเเต่ถามตัวเจ้า การอยู่ที่่นี้เจ้าจะได้อยู่เเต่กับที่ ไม่มีใครสนใจภาพวาด อยากจะไล่ล่าความฝันหรือเปล่าละ เจ้านั้นชอบการวาดภาพหรือเปล่าละ? „

บาเรียมองดูภาพวาดที่ตัวเองวาดตั้งไว้โดยยังไม่เสร็จสมบูรณ์ “ ขอขอบคุณมาก ถึงเเม้ข้าจะอยากเป็นจอมยุทธ์เเต่ดูเหมือนสิ่งที่ชอบกว่าการเป็นจอมยุทธ์คือการวาดภาพ เพราะงั้นขอขอบคุณมาก ขอขอบคุณมาก เราจะได้เจอกันอีกไหม? „ “ เเน่นอนสิ ตราบใดที่ยังมีชีวิต เเปลว่ายังมีโอกาสได้เจอกัน เดี่ยวจะอยู่ช่วยเเน่นอน เพราะงั้น ช่วยวาดรูปตรงนั้นให้เสร็จได้ไหม ข้าจะขอรูปภาพนี้เป็นที่ระลึก „ บาเรียรีบพยักหน้ารีบวิ่งไปนั่งวาดภาพอย่างตั้งใจ เซราฟถามโซระอย่างตรงไปตรงมา “ เด็กคนนัั้นจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ? „ “ อะไรกันถ้าเป็นห่วงขนาดนี้ทำไมไม่ตามไปด้วยละ? „ “ เเค่ถามเพื่อความเเน่ใจ ไม่งั้นคงจะไม่พามาที่นี้เเน่นอนครับ „

“ เราเคยเจอกันด้วยเหรอหนุ่มน้อย? „ เซาฟส่ายหน้าเพื่อเป็นการบอกว่าไม่เคยเจอ [ ใช้โชคล้วนล้วน ] “ ไม่เคยครับ มีเเเค่โชคเท่านั้นครับ เห็นเเบบนี้เเต่ผมนั้นมีค่าโชคดีสูง „ “ เอาเถอะข้าเองก็ไม่ได้สนใจอย่างอื่นนอกจากรูปภาพสะด้วยสิ „โซระพูดพร้อมกกับมองดูในกระเป๋าของเซราฟที่เหมือนจะยิิบสิ่งของบางอย่างออกมา เซราฟยิบสิ่งของบางอย่างที่เหมือนปากกาสีทอง “ นี้ครับ ของขวัญจากผมเป็นปากกาที่ทำมาจากทองคำทั้งหมดครับ „ โซระยิบปากกาสีทองคำออกมาดู “ จะให้ฉันมาทำไมละนึกว่าควรจะให้สาวน้อยตรงนั้นสะอีก „ “ เป็นปากกนำโชคครับ ขอเเค่พกติดตัวไว้ โชคดีจะเข้ามาหา „ “ เป็นนักเล่นของหรือไง เอาเถอะสิ่งนี้ถือว่าเป็นค่ารับลูกศิษบาเรียละกัน ออ ออ ใช่ ข้าชื่อ โซระ เจ้าละ? „ “ เซราฟครัับ „ โซระรับปากกาองคำมาพร้อมกับเก็บไว้ในกระเป๋า “ มาช่วยกันหน่อยสิ ลูกศิษของข้ากำลังวาดภาพเพราะงั้น เจ้ามาช่วยข้าเก็บของละกัน „

เวลาเริ่มผ่านไป บาเรียวาดรูปจนเสร็จพร้อมกับการมองดูโดยรอบ เห็นเซราฟเเละโซระยืนรอตัวเอง “ วาดเสร็จเเล้วค่่ะ „ โซระมองดูภาพวาดสีดำสนิทเพราะลืมนำสีอื่นมาให้บาเรีย [ ถึงเเม้จะไม่ได้สวยงามเพราะเป็นมือใหม่ เเต่สิ่งที่มั่นใจคือความตั้งใจที่เเสดงออกมาให้เห็น เป็นนักวาดภาพที่เดาไม่ออกเลยละ ตอนเเรกเห็นโคร่งร่างนึกว่าจะวาดภาพร้านวาดรูปเเต่ผิดคลาด ดันวาดรูปภาพตัวฉันที่นั่งวาดภาพสะงั้น ไม่สิภาพของตัวเองที่กำลังวาดภาพมากกว่า ] บาเรียยิบรูภาพที่พึ่งวาดเสร็จเดินมามอบให้เซราฟ “ บุญคุณครั้งนี้จะไม่มีวันลืมเเน่นอน เซราฟขอขอบคุณมาก „ เซราฟรับภาาพมาเเล้วพยักหน้ารับ [ ไม่เข้าใจสักนิดว่าเป็นรูปอะไรเเต่สิ่งที่รู้คือมีความตั้งใจ ] “ สวยงามมาก จะเก็บรักษาอย่างดี „ บาเรียมองดูใบหน้าเซราฟ เวลาผ่านไป บาเรียเเละโซระนั่งลงบนรถม้าที่เต็มไปด้วยรูปภาพโดยมี เซราฟยืนมองดูเห็นบาเรียยินโบกมือลาจนสุดสายตา เซราฟเริ่มหันหลังเดินกลับบ้าน ทางรถม้าที่โซระกับบาเรียนั่งอยู่ โซระมองดูสาวน้อยที่นั่งอย่างสงบนิ่งรอคำสั่งจากโซระ “ เอาละโลกใบนี้เเค่คำว่าจอมยุทธ์ต้องควบคู่ไปกับนักวาดภาพยิ่งมีเวลาชีวิตมากเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ เจ้าจะได้รับคำสั่งสอนจากข้า ที่ฝึกจอมยุทธ์ของเส้นทางนักวาดภาพ เป็นเส้นทางที่ข้านั้นเลือกเดิน ฝึกฝนไปพร้อมกับวาดภาพ เรียกข้าว่าอาจารย์ได้ „ “ ค่ะ อาจารย์ „