บทที่ 1 เริ่มการเล่นเกม

6 วันถัดมา

ณ ห้องรับรองบริษัทเดม่อนเกม ไทยแลนด์

 

วันนี้ฉันและลิน่าเดินทางเข้ามาที่บริษัทเกมนี้ เพื่อมารายงานตัวร่วมทดลองเกมจีบหนุ่มที่ว่าไปในตอนแรก ซึ่งลิน่าก็อาสาว่าจะมาเป็นเพื่อน

 

ขณะรอเจ้าหน้าที่เตรียมเอกสาร พวกเราถูกเชิญให้มานั่งที่ห้องรับรอง ซึ่งภายในตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ที่มีเพียงโซฟาและโต๊ะรับรอง ประดับด้วยแจกันดอกไม้ขนาดเล็ก

 

ลิน่าที่นั่งข้างๆ หันมายิ้มกว้างแก้มปริดีใจ ราวกับตัวเองเป็นคนที่ได้รับรางวัลใหญ่เองซะอย่างนั้น

 

“เป็นไงล่ะ ฉันบอกแล้ว พระเจ้ามอบโอกาสให้แกจริง ๆ ด้วย”

 

“พระเจ้าเหรอ? แกมากกว่ามั้ง? เอาชื่อฉันไปสมัครเองแล้วไม่ได้บอกกันก่อนแบบนี้ได้ยังไง ฮะ!”

 

ฉันพูดกับลิน่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เพราะเธอทำอะไรโดยไม่บอกกันก่อน สุดท้ายใครคิดว่าแจ็กพอตจะมาแตกที่ฉันล่ะ! และวันนี้ก็เป็นวันที่ต้องมาทดลองเล่นเกมอะไรนี่ด้วย

 

“เอาน่า ฉันทำเพื่อแกเลยนะ” ลิน่าพูดพร้อมกับส่งสายตาน่าเอ็นดูมาทางฉัน เห้อ~ ทำแบบนี้แล้วฉันจะโกรธลงได้ยังไงล่ะ

 

ในตอนนั้นเอง เจ้าหน้าที่จัดเตรียมเอกสารเสร็จแล้วก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับพวกเรา

 

“สวัสดีค่ะ ท่านไหนคือคุณเมเบลคะ” เจ้าหน้าที่ถาม

 

“คนนี้เลยค่า” ลิน่ารีบแย่งตอบอย่างกระตือรือร้น

 

“ค่ะ งั้นทางเราขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการทดลองเกม beta test ในครั้งนี้นะคะ” เจ้าหน้าที่พูดพลางยื่นเอกสารให้ฉันอ่าน “เกมนี้มีชื่อว่า รักนี้ลงเอยที่ใครนะคะ” ชื่อคือแบบรู้เลยฮาเร็มแน่ ๆ ก็อย่างว่านะ เกมจีบหนุ่ม คือต้องสร้างความประทับใจกับผู้ชายในเกมให้ได้มากที่สุดตามสเต็ป

 

“เกมนี้จะเป็นเกมจีบหนุ่มแนวต่างโลกนะคะ โดย setting จะเป็นยุคกลางที่จะมีสงคราม ความอดยาก โรคระบาด” ฮะ เอาจริงดิ? ทำไมต้องเซตให้เป็นยุคมืดด้วยนะ นี่เกมจีบหนุ่มหรือเกมเอาตัวรอดกันแน่ ถามจริง?

 

“แต่คุณเมเบลไม่ต้องเป็นห่วงไปนะคะ เกมนี้เป็นแนวต่างโลกที่ไม่ได้มีการอ้างอิงตามประวัติศาสตร์โลกจริงมากนัก ตัวเนื้อเกมจะเป็นแนวแฟนตาซี พลังเวท พลังศักดิ์ในการรักษาผู้คน สงครามจะเป็นสงครามระหว่างมนุษย์กับปีศาจ ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ” ปีศาจ? ฟังแล้วใจฉันเย็นลงทันที (ประชด)

 

“และพวกตัวละครจะมีบรรดาศักดิ์ทางยุโรป* คุณเมเบลสามารถอ่านได้จากเอกสารที่ให้ไปได้ค่ะ ส่วนภาษาทางระบบเกมจะ setting ให้ภาษาพูดเป็นภาษาไทย และที่สำคัญผู้เล่นจะต้องเคลียร์เกมหรือจบเกมแบบ happy ending เท่านั้นถึงจะถือว่าผ่านค่ะ โดยที่ผู้เล่นต้องทำคะแนนกับตัวละครชายให้ได้ 100 คะแนนเต็ม อย่างน้อยให้ได้ 1 ตัวละครค่ะ”

 

“...”

 

“คะแนนความชอบจะแสดงให้ผู้เล่นเห็นเฉพาะตัวละครชายหรือพระเอกของเรื่องเท่านั้น... เงื่อนไขก็คือผ่านเควสต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกตัวละครแต่ละตัว ส่วนค่าความชอบอาจจะเกิดจากความชอบ ความสนใจ ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ตัวละครได้รับค่ะ”

 

ก็คือเราสามารถเห็นค่าสถานะได้เฉพาะตัวละครชายที่เราจะต้องทำคะแนนอย่างนั้นสินะ ส่วนเรื่องค่าความชอบ... ถ้าทำให้พวกเขาตกใจหรือแปลกใจก็สามารถเพิ่มค่าได้ด้วยไหมนะ?

 

“คะแนนสามารถขึ้นและลงได้เสมอ ทุกการกระทำรายละเอียดยิบย่อย การสนทนามีผลต่อตัวละครทั้งหมดนะคะ และตัวละครก็สามารถเปลี่ยนนิสัยใจคอไปตามการกระทำของเราได้ค่ะ”

 

“หมายถึงตัวละครสามารถกลายเป็นคนดีและคนร้ายได้ตามสิ่งที่เราทำเหรอคะ” ลิน่ายกมือขึ้นถามเหมือนยกมือถามคุณครูในห้องเรียนเลย ฉันล่ะปวดหัวกับเพื่อนคนนี้จริง

 

“ใช่ค่ะ”

 

“เรียลมากเลยแก น่าสนุกมาก” ลิน่าหันมาพูดกับฉัน จนฉันต้องมองค้อนยัยลิน่าที่ตื่นเต้นเกินเหตุไปหนึ่งที เจ้าหน้าที่ก็เริ่มอธิบายต่อจนจบ

 

โดยที่ฉันก็สรุปใจความสำคัญสั้น ๆ ได้ว่า ฉันต้องเข้าไปในเกมจีบหนุ่มที่เสมือนอยู่โลกจริงแนวแฟนตาซีนี้ เพื่อพิชิตใจตัวละครชายให้ได้อย่างน้อยหนึ่งคน โดยที่ต้องทำคะแนนให้ได้ 100 เต็มถึงจะผ่าน!

 

ซึ่งค่าสถานะ สามารถมีได้ตั้งแต่ -100 ไปจนถึง 100 เลย ถ้าหากเจอคะแนน -100 นี่ไม่ต้องคิดเลยว่าแปลว่าอะไร เพราะคงโดนตัวละครนั้นเกลียดเข้าไส้แน่นอน!

 

ก่อนที่ฉันจะได้อ่านเอกสารในมือต่อ เจ้าหน้าที่ก็พูดขึ้นมาว่า

 

“ตัวละครหญิงจะมีทั้งหมด 4 ตัวละครนะคะ ที่ผู้เล่นสามารถสวมบทบาทได้ ซึ่งต้องบอกก่อนนะคะว่า ไม่สามารถเลือกตัวละครเองได้ ระบบจะทำการแรนดอมหรือสุ่มตัวละครให้ผู้เล่นเองค่ะ ดังนั้นโปรดทำความเข้าใจทั้ง 4 ตัวละครเลยนะคะ”

 

“หมายความว่าเนื้อเรื่องขึ้นอยู่กับอุปสรรคของตัวละครด้วยใช่ไหมคะ” ฉันถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบแค่เพียงพยักหน้าให้เท่านั้น

 

“และที่สำคัญที่สุด ผู้เล่นไม่สามารถออกจากเกมได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากที่หน้าต่างเกมจะไม่มีปุ่มล็อกเอาท์ให้ค่ะ” เจ้าหน้าที่พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัย ทำเอาฉันเริ่มใจคอไม่ดี “แต่จะมีปุ่มฉุกเฉินให้แทน ผู้เล่นสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อล็อกเอาท์ได้…”

 

ฉันพยายามตั้งสติฟัง แต่คำพูดถัดมาทำให้ฉันแทบสะอึก

 

“...แต่ถ้าหากผู้เล่นกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อต้องการล็อกเอาท์... ผู้เล่นจะต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายในกรณีฉีกสัญญา จำนวน 1 ล้านบาทด้วยค่ะ”

 

หนึ่งล้านบาท!? หัวใจฉันแทบหล่นไปที่ตาตุ่ม นี่มันไม่ต่างอะไรกับการขู่กรรโชกกันเลย! แล้วแบบนี้จะล็อกเอาท์ออกมากินข้าว กินน้ำ หรือแม้แต่ไปเข้าห้องน้ำยังไงได้ล่ะ? บ้าไปแล้ว!

 

ฉันได้แต่มองเจ้าหน้าที่ที่ยังยิ้มบาง ๆ อยู่ตรงหน้า พร้อมกับคิดในใจว่า นี่มันกับดักชัด ๆ เลย! แต่เหมือนว่าทางเจ้าหน้าที่จะอ่านใจฉันออก

 

“ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ขณะที่ผู้เล่นกำลังอยู่ในเกม ทางเรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยรักษาโมเลกุลของร่างกาย แม้ว่าจะไม่ได้ทานอะไรเลย สภาพร่างกายจะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ ผู้เล่นจะไม่รับรู้ถึงความรู้สึกในร่างปัจจุบัน ความรู้สึกทั้งหมดจะรับรู้ได้จากตัวละครในเกมเท่านั้นค่ะ ลองอ่านรายละเอียดก่อนเซ็นสัญญาก็ได้นะคะ โอกาสนี้ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ด้วย ไม่อยากให้พลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป” เจ้าหน้าที่พูดพร้อมส่งยิ้มให้และปล่อยให้พวกเราอ่านเอกสารทบทวนสัญญากันเอง

 

“เมเบล แกเอาไง?” ลิน่าจากที่ตื่นเต้น เปลี่ยนมาเป็นโหมดกังวลแทน

 

“ฉัน…ฉันอยากลองดู แค่ไม่ออกจากเกมก่อนก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ และก็...คิดว่าไม่น่าจะใช้เวลานานอะไรขนาดนั้นด้วย” ฉันคิดและตัดสินใจลองดูสักครั้ง เพราะเงินก้อนนี้มันสามารถเปลี่ยนชีวิตฉันได้เลย

 

“แต่ว่า มันแปลกอยู่นะ ทำไมต้องห้ามล็อกเอาท์ด้วยอะ ปกติเกมมันจะต้องมีปุ่มล็อกเอาท์อยู่แล้วนี่ แล้วตัวละครที่เซตไว้มันเปลี่ยนไปได้ด้วยเหรอ”

 

คำพูดของลิน่าทำให้ฉันฉุกคิดตาม เกมนี้มันแปลกจริง ๆ นั่นแหละ แต่ว่าโอกาสแบบนี้มันก็ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ด้วยสิ ถ้าไม่ลองดู ฉันก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าอีก และเงินที่มีอยู่ก็เพิ่งเอาไปจ่ายค่าห้องที่ค้างไว้หมดแล้วอีกต่างหาก

 

เอาวะ! ยังไงก็ไม่น่าจะเสี่ยงเท่ากับขนยาบ้าแน่ ๆ ฉันปลอบใจตัวเองพลางจับปากกาแน่น สูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะเซ็นชื่อในเอกสารนั้นอย่างรวดเร็ว

 

เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเอกสารที่ฉันเซ็นและแจ้งรายละเอียดย้ำอีกครั้งพร้อมพาฉันไปยังห้องทดลองเล่นเกม

 

“ขั้นตอนต่อไปนี้ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่สามารถเข้าไปด้านในได้แล้วนะคะ” เจ้าหน้าที่หันมาบอก พร้อมส่งสัญญาณให้ฉันลาเพื่อน

 

“เบล โชคดีนะแก ข้าวของของแกเดี๋ยวฉันเอามาไว้ที่ห้องฉันก่อนก็แล้วกัน” ลิน่าบอก

 

“ขอบใจมาก ฝากด้วยนะ” ฉันบอกลาลิน่า พร้อมสูดลมหายใจลึก ๆ ก่อนจะเดินตามเจ้าหน้าที่เข้าไป

 

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง ฉันเองก็แอบตกใจเล็กน้อย เพราะด้านในมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 10 ชีวิตกำลังรอฉันอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันตะลึงกว่าก็คือ เจ้าเครื่องคล้ายแคปซูลขนาดใหญ่ที่หน้าตาเหมือนโลงศพมากกว่าหรือเปล่านะ? วางอยู่ใจกลางห้อง พร้อมมอนิเตอร์มากมายนับสิบชิ้นได้

 

เจ้าเครื่องนั้นฉันน่าจะต้องเข้าไปนอนระหว่างเข้าเกม แต่พอสังเกตรอบ ๆ ห้อง บรรยากาศมันดูไม่เหมือนห้องเล่นเกมเลยสักนิด มันดูคล้ายกับห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ล้ำ ๆ มากกว่าเสียอีก

 

“เชิญครับ” เจ้าหน้าที่ในชุดแล็บผายมือเชิญฉันให้เข้าไปนอนในเครื่องแปลก ๆ นั่น ฉันยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ความกลัวเล็กๆ เริ่มแล่นเข้ามาในหัวทันที

 

นี่ฉันกำลังถูกจับมาทดลองอะไรหรือเปล่านะ? เอ๊ะ แต่มันก็เป็นการทดลอง (เล่นเกม) จริงๆ นั่นแหละ

 

“ความรู้สึกทุกอย่างจะเหมือนจริงทั้งหมด โปรดระมัดระวังการบาดเจ็บด้วยนะครับ” เจ้าหน้าที่เตือนฉันอีกที

 

บาดเจ็บ?! ฉันกลืนน้ำลายหนืดลงคอ พลางมองเครื่องแคปซูลตรงหน้าอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจปีนเข้าไปนอนในนั้นอย่างช้า ๆ

 

ทันทีที่ฉันนอนลง เจ้าหน้าที่หลายคนก็เข้ามาปิดฝาเครื่อง จากนั้นระบบก็เริ่มทำงาน เสียงอุปกรณ์รอบตัวดังเบา ๆ ขณะที่พวกเขากำลังเชื่อมต่อบางอย่างเข้ากับร่างกายของฉัน

 

“เตรียมพร้อม เริ่มเกมได้” และนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินจากที่แห่งนี้

 

==========

 

หมายเหตุ

*เนื้อเรื่องมีการอ้างอิงระบบขุนนางหรือบรรดาศักดิ์ทางยุโรป โดยบรรดาศักดิ์นี้จะได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์เป็นรางวัล เมื่อสร้างความดีความชอบครั้งใหญ่ ๆ เช่น การชนะสงคราม หรือทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดิน มีการสืบต่อทางสายเลือด จากพ่อ ถึง ลูกชาย หลานชาย ลงมาตามลำดับเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีผู้สืบสกุล

 

ภรรยาของผู้นำตระกูลก็จะได้รับตำแหน่งในราชสำนักด้วยเช่นกัน คือ ถ้าสามีเป็นดยุก ภรรยาจะได้รับตำแหน่ง ดัชเชส โดยบรรศักดิ์ในเนื้อเรื่องเรียงลำดับ ดังนี้ (บรรดาศักดิ์ที่ไม่ปรากฏในเรื่องจะไม่ขอกล่าวถึง เพื่อกันความสับสน)

 

จักรพรรดิ (Emperor) / จักพรรดินี (Empress) >> เทียบเป็นพระมหากษัตริย์

องค์รัชทายาท (Crown Prince) >> เทียบเป็นสยามมกุฎราชกุมาร

ดยุก (Duke) / ผู้หญิง : ดัชเชส (Duchess) >> เทียบเป็นสมเด็จเจ้าพระยา

มาร์ควิส (Marquis) / ผู้หญิง : มาร์เชอร์เนส (Marchioness) >> เทียบเป็นเจ้าพระยา

เคานท์ หรือ เอิร์ล (Count หรือ Earl) / ผู้หญิง : เคานท์เตส (Countess) >>เทียบเป็นพระยา

ไวเคานท์ (Viscount) / ผู้หญิง : ไวเคานท์เตส (Viscountess) >> เทียบเป็นจมื่น,พระ

บารอน (Baron) / ผู้หญิง : บารอเนส (Baroness) >> เทียบเป็นหลวง

 

เพิ่มเติม

เลดี้ >> ใช้สำหรับเรียกหญิงสาวชนชั้นสูงที่ยังไม่ได้แต่งงาน

มาดาม >> หญิงชนชั้นสูงที่แต่งงานแล้ว

เซอร์ >> ใช้เรียกผู้ชาย

การเรียกนามสกุล >> สำหรับการเรียกทั่วไป

การเรียกชื่อ >> สำหรับการเรียกของคนสนิท

 

6 วันถัดมา

ณ ห้องรับรองบริษัทเดม่อนเกม ไทยแลนด์

 

วันนี้ฉันและลิน่าเดินทางเข้ามาที่บริษัทเกมนี้ เพื่อมารายงานตัวร่วมทดลองเกมจีบหนุ่มที่ว่าไปในตอนแรก ซึ่งลิน่าก็อาสาว่าจะมาเป็นเพื่อน

 

ขณะรอเจ้าหน้าที่เตรียมเอกสาร พวกเราถูกเชิญให้มานั่งที่ห้องรับรอง ซึ่งภายในตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตา ที่มีเพียงโซฟาและโต๊ะรับรอง ประดับด้วยแจกันดอกไม้ขนาดเล็ก

 

ลิน่าที่นั่งข้างๆ หันมายิ้มกว้างแก้มปริดีใจ ราวกับตัวเองเป็นคนที่ได้รับรางวัลใหญ่เองซะอย่างนั้น

 

“เป็นไงล่ะ ฉันบอกแล้ว พระเจ้ามอบโอกาสให้แกจริง ๆ ด้วย”

 

“พระเจ้าเหรอ? แกมากกว่ามั้ง? เอาชื่อฉันไปสมัครเองแล้วไม่ได้บอกกันก่อนแบบนี้ได้ยังไง ฮะ!”

 

ฉันพูดกับลิน่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เพราะเธอทำอะไรโดยไม่บอกกันก่อน สุดท้ายใครคิดว่าแจ็กพอตจะมาแตกที่ฉันล่ะ! และวันนี้ก็เป็นวันที่ต้องมาทดลองเล่นเกมอะไรนี่ด้วย

 

“เอาน่า ฉันทำเพื่อแกเลยนะ” ลิน่าพูดพร้อมกับส่งสายตาน่าเอ็นดูมาทางฉัน เห้อ~ ทำแบบนี้แล้วฉันจะโกรธลงได้ยังไงล่ะ

 

ในตอนนั้นเอง เจ้าหน้าที่จัดเตรียมเอกสารเสร็จแล้วก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับพวกเรา

 

“สวัสดีค่ะ ท่านไหนคือคุณเมเบลคะ” เจ้าหน้าที่ถาม

 

“คนนี้เลยค่า” ลิน่ารีบแย่งตอบอย่างกระตือรือร้น

 

“ค่ะ งั้นทางเราขอชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการทดลองเกม beta test ในครั้งนี้นะคะ” เจ้าหน้าที่พูดพลางยื่นเอกสารให้ฉันอ่าน “เกมนี้มีชื่อว่า รักนี้ลงเอยที่ใครนะคะ” ชื่อคือแบบรู้เลยฮาเร็มแน่ ๆ ก็อย่างว่านะ เกมจีบหนุ่ม คือต้องสร้างความประทับใจกับผู้ชายในเกมให้ได้มากที่สุดตามสเต็ป

 

“เกมนี้จะเป็นเกมจีบหนุ่มแนวต่างโลกนะคะ โดย setting จะเป็นยุคกลางที่จะมีสงคราม ความอดยาก โรคระบาด” ฮะ เอาจริงดิ? ทำไมต้องเซตให้เป็นยุคมืดด้วยนะ นี่เกมจีบหนุ่มหรือเกมเอาตัวรอดกันแน่ ถามจริง?

 

“แต่คุณเมเบลไม่ต้องเป็นห่วงไปนะคะ เกมนี้เป็นแนวต่างโลกที่ไม่ได้มีการอ้างอิงตามประวัติศาสตร์โลกจริงมากนัก ตัวเนื้อเกมจะเป็นแนวแฟนตาซี พลังเวท พลังศักดิ์ในการรักษาผู้คน สงครามจะเป็นสงครามระหว่างมนุษย์กับปีศาจ ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ” ปีศาจ? ฟังแล้วใจฉันเย็นลงทันที (ประชด)

 

“และพวกตัวละครจะมีบรรดาศักดิ์ทางยุโรป* คุณเมเบลสามารถอ่านได้จากเอกสารที่ให้ไปได้ค่ะ ส่วนภาษาทางระบบเกมจะ setting ให้ภาษาพูดเป็นภาษาไทย และที่สำคัญผู้เล่นจะต้องเคลียร์เกมหรือจบเกมแบบ happy ending เท่านั้นถึงจะถือว่าผ่านค่ะ โดยที่ผู้เล่นต้องทำคะแนนกับตัวละครชายให้ได้ 100 คะแนนเต็ม อย่างน้อยให้ได้ 1 ตัวละครค่ะ”

 

“...”

 

“คะแนนความชอบจะแสดงให้ผู้เล่นเห็นเฉพาะตัวละครชายหรือพระเอกของเรื่องเท่านั้น... เงื่อนไขก็คือผ่านเควสต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกตัวละครแต่ละตัว ส่วนค่าความชอบอาจจะเกิดจากความชอบ ความสนใจ ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ตัวละครได้รับค่ะ”

 

ก็คือเราสามารถเห็นค่าสถานะได้เฉพาะตัวละครชายที่เราจะต้องทำคะแนนอย่างนั้นสินะ ส่วนเรื่องค่าความชอบ... ถ้าทำให้พวกเขาตกใจหรือแปลกใจก็สามารถเพิ่มค่าได้ด้วยไหมนะ?

 

“คะแนนสามารถขึ้นและลงได้เสมอ ทุกการกระทำรายละเอียดยิบย่อย การสนทนามีผลต่อตัวละครทั้งหมดนะคะ และตัวละครก็สามารถเปลี่ยนนิสัยใจคอไปตามการกระทำของเราได้ค่ะ”

 

“หมายถึงตัวละครสามารถกลายเป็นคนดีและคนร้ายได้ตามสิ่งที่เราทำเหรอคะ” ลิน่ายกมือขึ้นถามเหมือนยกมือถามคุณครูในห้องเรียนเลย ฉันล่ะปวดหัวกับเพื่อนคนนี้จริง

 

“ใช่ค่ะ”

 

“เรียลมากเลยแก น่าสนุกมาก” ลิน่าหันมาพูดกับฉัน จนฉันต้องมองค้อนยัยลิน่าที่ตื่นเต้นเกินเหตุไปหนึ่งที เจ้าหน้าที่ก็เริ่มอธิบายต่อจนจบ

 

โดยที่ฉันก็สรุปใจความสำคัญสั้น ๆ ได้ว่า ฉันต้องเข้าไปในเกมจีบหนุ่มที่เสมือนอยู่โลกจริงแนวแฟนตาซีนี้ เพื่อพิชิตใจตัวละครชายให้ได้อย่างน้อยหนึ่งคน โดยที่ต้องทำคะแนนให้ได้ 100 เต็มถึงจะผ่าน!

 

ซึ่งค่าสถานะ สามารถมีได้ตั้งแต่ -100 ไปจนถึง 100 เลย ถ้าหากเจอคะแนน -100 นี่ไม่ต้องคิดเลยว่าแปลว่าอะไร เพราะคงโดนตัวละครนั้นเกลียดเข้าไส้แน่นอน!

 

ก่อนที่ฉันจะได้อ่านเอกสารในมือต่อ เจ้าหน้าที่ก็พูดขึ้นมาว่า

 

“ตัวละครหญิงจะมีทั้งหมด 4 ตัวละครนะคะ ที่ผู้เล่นสามารถสวมบทบาทได้ ซึ่งต้องบอกก่อนนะคะว่า ไม่สามารถเลือกตัวละครเองได้ ระบบจะทำการแรนดอมหรือสุ่มตัวละครให้ผู้เล่นเองค่ะ ดังนั้นโปรดทำความเข้าใจทั้ง 4 ตัวละครเลยนะคะ”

 

“หมายความว่าเนื้อเรื่องขึ้นอยู่กับอุปสรรคของตัวละครด้วยใช่ไหมคะ” ฉันถามเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบแค่เพียงพยักหน้าให้เท่านั้น

 

“และที่สำคัญที่สุด ผู้เล่นไม่สามารถออกจากเกมได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากที่หน้าต่างเกมจะไม่มีปุ่มล็อกเอาท์ให้ค่ะ” เจ้าหน้าที่พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัย ทำเอาฉันเริ่มใจคอไม่ดี “แต่จะมีปุ่มฉุกเฉินให้แทน ผู้เล่นสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อล็อกเอาท์ได้…”

 

ฉันพยายามตั้งสติฟัง แต่คำพูดถัดมาทำให้ฉันแทบสะอึก

 

“...แต่ถ้าหากผู้เล่นกดปุ่มฉุกเฉินเพื่อต้องการล็อกเอาท์... ผู้เล่นจะต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายในกรณีฉีกสัญญา จำนวน 1 ล้านบาทด้วยค่ะ”

 

หนึ่งล้านบาท!? หัวใจฉันแทบหล่นไปที่ตาตุ่ม นี่มันไม่ต่างอะไรกับการขู่กรรโชกกันเลย! แล้วแบบนี้จะล็อกเอาท์ออกมากินข้าว กินน้ำ หรือแม้แต่ไปเข้าห้องน้ำยังไงได้ล่ะ? บ้าไปแล้ว!

 

ฉันได้แต่มองเจ้าหน้าที่ที่ยังยิ้มบาง ๆ อยู่ตรงหน้า พร้อมกับคิดในใจว่า นี่มันกับดักชัด ๆ เลย! แต่เหมือนว่าทางเจ้าหน้าที่จะอ่านใจฉันออก

 

“ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ขณะที่ผู้เล่นกำลังอยู่ในเกม ทางเรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะช่วยรักษาโมเลกุลของร่างกาย แม้ว่าจะไม่ได้ทานอะไรเลย สภาพร่างกายจะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ ผู้เล่นจะไม่รับรู้ถึงความรู้สึกในร่างปัจจุบัน ความรู้สึกทั้งหมดจะรับรู้ได้จากตัวละครในเกมเท่านั้นค่ะ ลองอ่านรายละเอียดก่อนเซ็นสัญญาก็ได้นะคะ โอกาสนี้ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ด้วย ไม่อยากให้พลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป” เจ้าหน้าที่พูดพร้อมส่งยิ้มให้และปล่อยให้พวกเราอ่านเอกสารทบทวนสัญญากันเอง

 

“เมเบล แกเอาไง?” ลิน่าจากที่ตื่นเต้น เปลี่ยนมาเป็นโหมดกังวลแทน

 

“ฉัน…ฉันอยากลองดู แค่ไม่ออกจากเกมก่อนก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ และก็...คิดว่าไม่น่าจะใช้เวลานานอะไรขนาดนั้นด้วย” ฉันคิดและตัดสินใจลองดูสักครั้ง เพราะเงินก้อนนี้มันสามารถเปลี่ยนชีวิตฉันได้เลย

 

“แต่ว่า มันแปลกอยู่นะ ทำไมต้องห้ามล็อกเอาท์ด้วยอะ ปกติเกมมันจะต้องมีปุ่มล็อกเอาท์อยู่แล้วนี่ แล้วตัวละครที่เซตไว้มันเปลี่ยนไปได้ด้วยเหรอ”

 

คำพูดของลิน่าทำให้ฉันฉุกคิดตาม เกมนี้มันแปลกจริง ๆ นั่นแหละ แต่ว่าโอกาสแบบนี้มันก็ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ด้วยสิ ถ้าไม่ลองดู ฉันก็ต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าอีก และเงินที่มีอยู่ก็เพิ่งเอาไปจ่ายค่าห้องที่ค้างไว้หมดแล้วอีกต่างหาก

 

เอาวะ! ยังไงก็ไม่น่าจะเสี่ยงเท่ากับขนยาบ้าแน่ ๆ ฉันปลอบใจตัวเองพลางจับปากกาแน่น สูดหายใจลึก ๆ ก่อนจะเซ็นชื่อในเอกสารนั้นอย่างรวดเร็ว

 

เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเอกสารที่ฉันเซ็นและแจ้งรายละเอียดย้ำอีกครั้งพร้อมพาฉันไปยังห้องทดลองเล่นเกม

 

“ขั้นตอนต่อไปนี้ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่สามารถเข้าไปด้านในได้แล้วนะคะ” เจ้าหน้าที่หันมาบอก พร้อมส่งสัญญาณให้ฉันลาเพื่อน

 

“เบล โชคดีนะแก ข้าวของของแกเดี๋ยวฉันเอามาไว้ที่ห้องฉันก่อนก็แล้วกัน” ลิน่าบอก

 

“ขอบใจมาก ฝากด้วยนะ” ฉันบอกลาลิน่า พร้อมสูดลมหายใจลึก ๆ ก่อนจะเดินตามเจ้าหน้าที่เข้าไป

 

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง ฉันเองก็แอบตกใจเล็กน้อย เพราะด้านในมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 10 ชีวิตกำลังรอฉันอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ฉันตะลึงกว่าก็คือ เจ้าเครื่องคล้ายแคปซูลขนาดใหญ่ที่หน้าตาเหมือนโลงศพมากกว่าหรือเปล่านะ? วางอยู่ใจกลางห้อง พร้อมมอนิเตอร์มากมายนับสิบชิ้นได้

 

เจ้าเครื่องนั้นฉันน่าจะต้องเข้าไปนอนระหว่างเข้าเกม แต่พอสังเกตรอบ ๆ ห้อง บรรยากาศมันดูไม่เหมือนห้องเล่นเกมเลยสักนิด มันดูคล้ายกับห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ล้ำ ๆ มากกว่าเสียอีก

 

“เชิญครับ” เจ้าหน้าที่ในชุดแล็บผายมือเชิญฉันให้เข้าไปนอนในเครื่องแปลก ๆ นั่น ฉันยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ความกลัวเล็กๆ เริ่มแล่นเข้ามาในหัวทันที

 

นี่ฉันกำลังถูกจับมาทดลองอะไรหรือเปล่านะ? เอ๊ะ แต่มันก็เป็นการทดลอง (เล่นเกม) จริงๆ นั่นแหละ

 

“ความรู้สึกทุกอย่างจะเหมือนจริงทั้งหมด โปรดระมัดระวังการบาดเจ็บด้วยนะครับ” เจ้าหน้าที่เตือนฉันอีกที

 

บาดเจ็บ?! ฉันกลืนน้ำลายหนืดลงคอ พลางมองเครื่องแคปซูลตรงหน้าอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจปีนเข้าไปนอนในนั้นอย่างช้า ๆ

 

ทันทีที่ฉันนอนลง เจ้าหน้าที่หลายคนก็เข้ามาปิดฝาเครื่อง จากนั้นระบบก็เริ่มทำงาน เสียงอุปกรณ์รอบตัวดังเบา ๆ ขณะที่พวกเขากำลังเชื่อมต่อบางอย่างเข้ากับร่างกายของฉัน

 

“เตรียมพร้อม เริ่มเกมได้” และนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยินจากที่แห่งนี้

 

==========

 

หมายเหตุ

*เนื้อเรื่องมีการอ้างอิงระบบขุนนางหรือบรรดาศักดิ์ทางยุโรป โดยบรรดาศักดิ์นี้จะได้รับการแต่งตั้งจากกษัตริย์เป็นรางวัล เมื่อสร้างความดีความชอบครั้งใหญ่ ๆ เช่น การชนะสงคราม หรือทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดิน มีการสืบต่อทางสายเลือด จากพ่อ ถึง ลูกชาย หลานชาย ลงมาตามลำดับเรื่อย ๆ จนกว่าจะไม่มีผู้สืบสกุล

 

ภรรยาของผู้นำตระกูลก็จะได้รับตำแหน่งในราชสำนักด้วยเช่นกัน คือ ถ้าสามีเป็นดยุก ภรรยาจะได้รับตำแหน่ง ดัชเชส โดยบรรศักดิ์ในเนื้อเรื่องเรียงลำดับ ดังนี้ (บรรดาศักดิ์ที่ไม่ปรากฏในเรื่องจะไม่ขอกล่าวถึง เพื่อกันความสับสน)

 

จักรพรรดิ (Emperor) / จักพรรดินี (Empress) >> เทียบเป็นพระมหากษัตริย์

องค์รัชทายาท (Crown Prince) >> เทียบเป็นสยามมกุฎราชกุมาร

ดยุก (Duke) / ผู้หญิง : ดัชเชส (Duchess) >> เทียบเป็นสมเด็จเจ้าพระยา

มาร์ควิส (Marquis) / ผู้หญิง : มาร์เชอร์เนส (Marchioness) >> เทียบเป็นเจ้าพระยา

เคานท์ หรือ เอิร์ล (Count หรือ Earl) / ผู้หญิง : เคานท์เตส (Countess) >>เทียบเป็นพระยา

ไวเคานท์ (Viscount) / ผู้หญิง : ไวเคานท์เตส (Viscountess) >> เทียบเป็นจมื่น,พระ

บารอน (Baron) / ผู้หญิง : บารอเนส (Baroness) >> เทียบเป็นหลวง

 

เพิ่มเติม

เลดี้ >> ใช้สำหรับเรียกหญิงสาวชนชั้นสูงที่ยังไม่ได้แต่งงาน

มาดาม >> หญิงชนชั้นสูงที่แต่งงานแล้ว

เซอร์ >> ใช้เรียกผู้ชาย

การเรียกนามสกุล >> สำหรับการเรียกทั่วไป

การเรียกชื่อ >> สำหรับการเรียกของคนสนิท