บทที่ 3 รีบปฏิเสธความสัมพันธ์

แต่สิ่งที่เวินรู่อี้ไม่คาดคิดก็คือ เพียงแค่เธอเดินออกจากประตูหลัง เสียงแหลมสูงก็ดังขึ้นทำลายความเงียบสงบของคฤหาสน์เวิน

"ขโมยเข้าบ้าน ขโมยเข้าบ้าน!"

"ของขวัญวันแต่งงานที่องค์ชายผู้สำเร็จราชการมอบให้คุณหนูสี่ถูกขโมยไปแล้ว รีบมาจับขโมยเร็ว!"

"โครม โครม โครม!"

เสียงฆ้องทองเหลืองดังสนั่นปลุกผู้คนที่กำลังหลับใหลให้ตื่นขึ้น

โคมไฟในแต่ละเรือนค่อยๆ สว่างขึ้นทีละดวง

เวินรู่อี้พบที่ซ่อนตัวของเสวียจื่อยู่ เพิ่งจะเอ่ยปาก ก็มีเสียง "โครม" ดังขึ้น ประตูหลังของคฤหาสน์เวินถูกกระแทกเปิดออก ตามด้วยกลุ่มคนที่วิ่งพรวดพราดออกมา

"เมื่อกี้ข้าเห็นขโมยวิ่งมาทางนี้..."

"เอ๊ะ ตรงนั้นมีคน รีบไปดูเร็ว"

เวินรู่อี้ตกใจ ยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกกลุ่มคนรับใช้ที่วิ่งเข้ามาล้อมไว้ เสวียจื่อยู่เห็นท่าไม่ดี กำลังจะวิ่งหนี แต่ถูกคนรับใช้ร่างสูงใหญ่คว้าตัวไว้เสียก่อน

"คนนี้มีพิรุธ ต้องเป็นขโมยที่ขโมยของมีค่าของคุณหนูสี่แน่ๆ! ช่างกล้านัก กล้าขโมยแม้แต่ของขวัญวันแต่งงานที่องค์ชายผู้สำเร็จราชการมอบให้คุณหนูสี่ สมควรโดนตี!"

"ผัวะ!"

คนรับใช้คนนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อยหน้าเสวียจื่อยู่อย่างแรง

เสวียจื่อยู่เป็นเพียงบัณฑิตผู้อ่อนแอ จะทนรับการโจมตีเช่นนี้ได้อย่างไร เขาเห็นดาวระยิบระยับทันที ร้องโอดโอยไม่หยุด

เวินรู่อี้เห็นสถานการณ์ คิดจะฉวยโอกาสเล็ดลอดหนีไป แต่ในตอนนั้นเอง มีเสียงประหลาดใจร้องขึ้น "เอ๊ะ นั่นไม่ใช่คุณหนูสามหรือ?"

เวินรู่อี้ชะงักกึก หันไปมอง ก็เห็นว่าคนที่เรียกเธอคือลู่เฉียว สาวใช้คนสนิทของเวินฉุนฉุน

ตอนนี้เธอยืนอยู่ในกลุ่มคน สีหน้าแสดงความประหลาดใจอย่างยิ่ง

หัวใจของเวินรู่อี้หล่นวูบ

และแล้ว เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินลู่เฉียวร้องเช่นนั้น ก็หันมาจ้องมองเธอ ทั้งยังมีสีหน้าประหลาด สายตากวาดมองไปมาระหว่างเธอกับเสวียจื่อยู่ ราวกับเข้าใจความสัมพันธ์ลึกซึ้งบางอย่าง

เวินรู่อี้ทั้งตกใจทั้งโกรธ

ไม่เข้าใจว่าเรื่องราวจะพัฒนามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร

"คุณหนูสาม ท่านกับคุณชายผู้นี้..." ลู่เฉียวเดินเข้ามา ถามด้วยน้ำเสียงสงสัย

เวินรู่อี้ได้สติกลับมา รีบปฏิเสธความสัมพันธ์ "ข้าไม่รู้จักคนผู้นี้..."

ลู่เฉียวพยักหน้า "ที่แท้คุณหนูสามก็ไม่รู้จักคุณชายผู้นี้นี่เอง" แล้วหันไปสั่งคนรับใช้ "คนผู้นี้มีพิรุธ บางทีอาจเป็นคนที่ขโมยของของคุณหนูสี่ รีบตีให้หนักๆ!"

คนรับใช้ยกไม้กระบองในมือขึ้น กำลังจะฟาดใส่เสวียจื่อยู่

เสวียจื่อยู่ตกใจจนหน้าซีด ดิ้นรนร้องตะโกน "เวินรู่อี้ เจ้ากับข้าติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว จะบอกว่าไม่รู้จักกันได้อย่างไร อีกอย่าง คืนนี้ก็เจ้านั่นแหละที่นัดข้ามาที่นี่ เจ้ารีบช่วยพูดอะไรสักหน่อยสิ..."

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนฮือฮา

เมื่อรู้สึกถึงสายตาประหลาดที่ทุกคนมองมา เวินรู่อี้รู้สึกใจหาย ทั้งตกใจทั้งโกรธ อยากจะตีเสวียจื่อยู่คนโง่นี่ให้ตาย ในขณะนี้ ต่อให้เธอฉลาดแค่ไหนก็รู้สึกว่าแก้ต่างไม่ได้แล้ว

ลู่เฉียวขมวดคิ้วพูด "คนผู้นี้พฤติกรรมน่าสงสัยยิ่งนัก ข้าต้องไปรายงานท่านกงกง พวกเจ้ารีบจับตัวเขากลับเข้าคฤหาสน์ไปสอบสวน อย่าให้เขาหนีไปได้"

เมื่อเวินรู่อี้รู้สึกตัวอีกครั้ง ลู่เฉียวก็วิ่งเข้าประตูคฤหาสน์ไปแล้ว

เหงื่อเย็นไหลลงมาจากหน้าผากของเธอ

คราวนี้ เธอตกใจจริงๆ แล้ว หากเรื่องนี้ถูกรายงานถึงเวินซื่อชิง...

"อ๊าก..."

ในตอนนั้นเอง คนรับใช้คนหนึ่งก็ร้องด้วยความเจ็บปวด เวินรู่อี้หันไปมอง ทันเห็นเพียงร่างของเสวียจื่อยู่ที่วิ่งหนีไป

เห็นดังนั้น เวินรู่อี้ก็แอบโล่งใจ

เสวียจื่อยู่ก็ไม่ได้โง่เกินไปนัก!

แค่คนหนีไปได้ก็พอ ไม่อย่างนั้นการติดต่อระหว่างเธอกับเสวียจื่อยู่ คงจะถูกเปิดเผย...

"ไม่ต้องไล่ตามแล้ว" เวินรู่อี้ห้ามคนรับใช้ที่กำลังจะไล่จับเสวียจื่อยู่

คนรับใช้ทั้งหลายลังเลอยู่บ้าง แต่นึกถึงว่าคุณหนูสามได้รับความโปรดปรานจากท่านย่าเสมอมา หากขัดคำสั่งเธอในตอนนี้ อาจจะนำความยุ่งยากมาให้ในภายหลัง

คิดได้ดังนั้น คนรับใช้ทั้งหลายจึงยอมเลิกไล่ตามเสวียจื่อยู่

เวินรู่อี้วางใจลง หันตัวเดินเข้าคฤหาสน์เวิน

สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ เสวียจื่อยู่ไม่ได้หนีไปไหน